แม้จะไม่ถึงกับหวือหวาแต่ G-Steel ของ Casio G-Shock ถือเป็นคอลเล็กชั่นหนึ่งที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และกับรุ่นล่าสุดอย่าง GST-S130BC-1A3 งานนี้มีการปรับเปลี่ยนหลายจุดในเรื่องของสิ่งที่อยู่บนตัวเรือน รวมถึงสายที่หันมาใช้หนังหุ้มด้วยผ้า Cordura
Casio G-Shock GST-S130BC-1A3 มีดีที่สาย
-
คอลเล็กชั่นใหม่ของ G-Steel ปรับทั้งหน้าตาและสาย
-
สายใช้ผ้า Cordura ที่มีความทนทานเป็นวัสดุในการผลิต
-
เปิดตัวออกมาในช่วงแรก 3 รุ่นย่อย
ในบรรดาคอลเล็กชั่นใหม่ๆ ที่ Casio เปิดตัวออกสู่ตลาดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่า G-Steel คือ สิ่งที่น่าดึงดูดใจอย่างมาก เพราะนานมาแล้วที่เราไม่ได้เห็น G-Shock (ถ้าไม่นับพวก MT-G และ MR-G) ที่มีส่วนประกอบของตัวเรือนเป็นเหล็กให้เห็นกัน และแน่นอนว่าผมเคยจับเจ้า GST-S130L มา Review ไปแล้วครั้งหนึ่งพร้อมกับค่อนข้างชื่นชมกับความลงตัวของการออกแบบและวัสดุที่นำมาใช้ ดังนั้น เมื่อ Casio เปิดตัวอีกทางเลือกออกมาในรหัส BC ผมไม่ลังเลเลยที่จะลองหันมาคบหากับนาฬิการุ่นนี้ และเลือก GST-S130BC-1A3 เข้ามาอยู่ในกรุของตัวเอง
เวอร์ชัน BC ของ GST-S130 ไม่ใช่เป็นแค่การเปลี่ยนสีหรือเติมลูกเล่นอะไรเข้าไปเหมือนอย่างที่ Casio ชอบทำกับ G-Shock แต่มันมีความเปลี่ยนแปลงมากกว่านั้น และเชื่อว่าคุณสามารถสัมผัสกันได้ตั้งแต่เห็นหน้าตากันเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างน้อยมี 2 จุดละที่เปลี่ยนไปจากนาฬิกาในตระกูล GST-S130
จะว่าไปแล้วนี่ก็เหมือนกับการไมเนอร์เชนจ์ให้กับรถยนต์ แต่เป็นการปรับโฉมที่เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะ 2 จุดที่ว่าคือ สิ่งที่มองเห็นได้ทันที อย่างแรกคือ รูปแบบของ Bezel ที่แม้ว่าจะยังเป็นห่วงแยกต่างหากและใช้น็อต 4 ตัวขันล็อกเอาไว้ตามสไตล์ของ G-Steel แต่วัสดุที่ใช้ตรงส่วนนี้ตามข้อมูลของ Casio นั้นเปลี่ยนไป เป็นการใช้ยูรีเทนขึ้นรูปแทนโลหะ และมีการออกแบบลวดลายให้เป็นผิวขรุขระที่พวกเขาอ้างอิงว่าเหมือนกับพื้นผิวของเครื่องมือที่จะต้องใช้มือจับ ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความกระชับมือ และการใช้ยูรีเทนนั้นยังช่วยทำให้ผลลัพธ์จากความเผลอเรอในการใช้งานจนไปกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง มีการฝากร่องรอยที่เห็นได้ยากกว่ารุ่นธรรมดาซึ่ง Bezel ผลิตจาก Stainless Steel
อย่างที่ 2 คือ รายละเอียดบนหน้าปัด ซึ่งถ้าดูกันจริงๆ จะพบว่าหน้าปัดใน GST-S130BC แตกต่างออกไปจาก GST-S130L โดยเฉพาะพื้นหน้าปัดที่เป็นลายแบบ Sunbrust มีการเล่นเหลื่อมลายตามการสะท้อนของแสงอาทิตย์ และอีกจุดคือ การใช้แถบเล็กๆ ใน Chapter Ring ของหน้าปัดเป็นพรายน้ำแทนที่หลักใหญ่
อย่างที่ 3 คือ สาย ซึ่งหลังจากที่รุ่น GST-S130L เปิดศักราชใหม่ให้กับ G-Steel ด้วยการจับคู่กับสายหนัง มาในรุ่นนี้พวกเขาเลือกให้จับคู่กับสายที่ผลิตจากผ้า Cordura ที่มีความทนทานกว่าไนลอน โดย Cordura เป็นผ้าที่ถูกใช้ในการตัดเย็บวัสดุ หรืออุปกรณ์สำหรับใช้ในการทางการทหาร จึงมั่นใจได้ในความทนทานต่อการใช้งานแบบโหดๆ ซึ่ง Cordura เป็นเนื้อผ้าที่ถูกคิดค้นมาแล้วกว่า 40 ปีโดยบริษัทดูปองต์ มีคุณสมบัติเด่นตรงที่น้ำหนักเบา เหนียว ทนทาน กันน้ำ และไม่เก็บฝุ่น ซึ่ง Jansport เป็นบริษัทแรกๆ ที่นำผ้าชนิดนี้มาใช้ในการผลิตสายสะพานกระเป๋าเป้ของพวกขา จากนั้นในปี1991 ยุคของสงครามอิรัก Cordura ก็ถูกนำมาใช้ในการผลิตรองเท้าคอมแบ็ตสำหรับทหาร
Casio นำผ้าชนิดนี้มาผลิตสาย แต่ตัวสายจะเป็นการประกบกันบนชิ้นงานตรงกลางที่เป็นเรซิน โดยด้านบนจะเป็นผ้า Cordura และด้านล่างส่วนที่สัมผัสกับข้อมือจะเป็นหนัง ดังนั้นจึงเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวสายให้มากขึ้นจากที่เป็นอยู่
ในแง่ของหน้าตานั้น ต้องบอกว่าไม่ต่างจากรุ่น GST-S130L มากนัก เพราะการที่ใช้พื้นฐานหลักเดียวกัน หน้าตาและรูปทรงก็เลยแทบจะถอดกันมา โดยในแง่ของเส้นผ่านศูนย์กลางยนั้นอยู่ที่ 52.4 มิลลิเมตร Lug to Lug 59.1 มิลลิเมตร และความสูง 16.1 มิลลิเมตร หนัก 104 กรัม และเมื่ออยู่บนข้อมือของผมจะให้อารมณ์แบบเต็มๆ ออกล้นนิดๆ ซึ่งค่อนข้างโอเคเลย
ส่วนใครที่คิดว่าเมื่อขาสายล้นออกมาแล้วเวลาคาดนาฬิกาบนข้อมือแล้วสายจะคอดเข้าไปจนมองดูเหมือนตัว V คงยากที่จะเกิดขึ้นกับนาฬิกาหลายๆ รุ่นของ G-Shock เพราะความแข็งของสายที่มีเรซินแทรกอยู่ตรงกลาง บวกกับการที่พวกเขาออกแบบตัวสายชิ้นส่วนยื่นออกมาเพื่อทำหน้าที่คัดง้างกับฝาหลังเอาไว้ ทำให้สายนาฬิกาไม่สอบลงมาและโค้งอย่างสวยงามตามข้อมือ
จริงๆ แล้ว งานนี้ค่อนข้างขัดใจผมเองไม่น้อย เพราะในแง่ของลวดลายที่อยู่บน Bezel นั้นไม่ว่าจะมาจากแนวคิดอะไรก็ตาม ผมก็ยังชอบ Bezel ที่ผลิตจาก Stainless Steel แบบเรียบๆ ของ GTS-S130L เพราะดูแล้วเรียบร้อยและสวยแบบไม่ฉูดฉาดมาก แต่สิ่งที่อยู่ใน GST-S130BC ที่ผมถูกใจมากก็คือ สายผ้า Cordura และสารภาพอีกครั้งว่าผมค่อนข้างชอบสายผ้าในลักษณะนี้ค่อนข้างมาก เพราะลวดลายของผ้า มันก็เลยกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมชอบมันไม่ได้รวมอยู่ทั้งหมดในนาฬิกาเรือนเดียว แต่ดันอยู่ในรุ่นนั้นนิดหนึ่ง และรุ่นนี้หน่อยหนึ่ง
แต่เหมือนกับคำกล่าวอมตะของคนเลี้ยงปลาทองที่ติดหูผมมาจนถึงทุกวันนี้คือ ‘ถ้าอยากได้ปลาที่ถูกใจ (ตัวเอง) ก็ให้เพาะพันธุ์เอง’ ถ้าอยากได้ที่ถูกใจก็ต้องซื้อ 2 เรือนเอามาโมดิฟายสลับกัน ซึ่งดูแล้วน่าจะแพงเอาเรื่อง ก็เลยต้องทำลืมๆ กันไปกับความต้องการแบบเรื่องมากของผม
สำหรับคอลเล็กชั่น G-Steel จะมากับโครงสร้างตัวเรือนที่เรียกว่า Layer Guard Structure ซึ่งเป็นการวางชั้นของตัวเรือนที่เป็นโลหะกับเรซินแข็งเพื่อให้มีความสามารถในการรองรับและดูดซับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น พร้อมปุ่มกดทั้ง 4 บนตัวเรือนจะมีสีตามสีตัวเรือน เช่นเดียวกับตัวรัดสายก็เปลี่ยนเป็นสีเดียวกับตัวเรือน ซึ่งผมคิดว่าน่าจะทำตั้งนานแล้ว มีอย่างที่ไหน นาฬิกาตัวเรือนดำ และตัวรัดสายกลับเป็นสีเงิน โดยมีขายด้วยกัน 3 รุ่นย่อยคือ ตัวเรือนเงินสายสีดำในรหัส GST-S130C ตามด้วยตัวเรือนดำสายสีดำ GST-S130BC-1A และรุ่นที่เห็นอยู่นี้คือ GST-S130BC-1A3 ที่มากับสายสีเขียวขี้ม้า
บนหน้าปัดนาฬิกามีการแบ่งวงย่อยออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกาแสดงวันที่ และเดือน ตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา แสดงวินาที และสถานะของระบบแบตเตอรี่ของ Tough Solar และตำแหน่ง 3 นาฬิกาแสดงวันในสัปดาห์ ขณะที่เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีมาในรูปทรงป่องกลางเหมือนกับดาบและปลายเข็มค่อนข้างยาว ดังนั้น สิ่งที่ผมเจออยู่เสมอคือเมื่อใดก็ตามที่เข็ม 2 เข็มนี้วางเรียงตัวกันในแนวระนาบต่อกัน ปลายสายของเข็มนาทีจะไปบดบังเข็มชั่วโมงซึ่งมีขนาดสั้นจนแทบมิด เหลือปลายโผล่ออกมานิดนึง
GST-S130BC-1A มากับโมดุลรหัส 5516 เหมือนกับรุ่น GST-S130L ใช้ระบบกินแสง หรือ Tough Solar ในการใช้แสงอาทิตย์หรือแสงทั่วไปเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ และมีฟังก์ชั่นมาตรฐานตามแบบฉบับของ G-Shock คือ World Time แสดงเวลาได้ 48 เมืองใน 31 เขตเวลา ปฏิทินอัตโนมัติจนถึงปี 2099 การจับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง และตั้งปลุกได้ 5 ครั้งต่อวัน
โดยส่วนตัวแล้วผมว่าค่าตัวของ GST-S130BC-1A3 ถือว่าแรงเอาเรื่องเลยเมื่อเปรียบเทียบกับฟังก์ชั่นที่มีอยู่ เพราะราคาป้ายที่เห็นตามเคาน์เตอร์อยู่ในระดับ 12,400 บาท ใกล้เคียงกับพวกที่มีความอเนกประสงค์อย่าง Rangeman หรือ Protrek บางรุ่น ดังนั้น ใครที่คิดว่าจะมี G-Shock เพียงไม่กี่เรือนในกรุก็คงตัดสินใจลำบาก และคิดว่า G-Steel น่าจะแทรกตัวเข้ามาเป็นตัวเลือกได้ยาก แต่ถ้าซื้อกันประจำอยู่แล้ว งานนี้ตัดสินใจไม่ยาก
แต่ก็อย่างว่าครับ แม้งานนี้ฟังก์ชั่นเป็นรอง แต่หน้าตาและรูปแบบของตัวนาฬิกากินขาด เรียกว่าดีลนี้ตัดสินกันที่ความชอบในหน้าตา ไม่ใช่ฟังก์ชั่น อ่อ…ถ้าร้านที่ซื้อประจำมีข้อเสนอที่คุณไม่อาจปฏิเสธแนบมาให้ด้วย งานนี้ตัดสินใจง่ายอย่างไม่น่าเชื่อเลย
ข้อมูลทางเทคนิค : Casio G-Shock GST-S130BC-1A3
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 52.4 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 59.1 มิลลิเมตร
- หนา : 16.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 104 กรัม
- ระดับการกันน้ำ : 200 เมตร
- Module : 5516 Tough Solar
- ฟังก์ชั่น : แสดงเวลาได้ 48 เมืองจาก 31 เขตเวลา / ตั้งปลุกได้ 5 ครั้งต่อวัน / จับเวลาเดินหน้า และถอยหลัง
- ประทับใจ : ดีไซน์ภายนอก รูปแบบของสาย
- ไม่ประทับใจ : ราคาเมื่อเปรียบเทียบกับฟังก์ชั่น
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/