ความงดงามยามค่ำคืนของนครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้ถูกตีความและถ่ายทอดลงบนตัวเรือนโลหะของรุ่น GMW-B5000 เพื่อความสวยอย่างโดดเด่น ซึ่งในเมืองไทยมีเข้ามาจำหน่ายเพียง 90 เรือนเท่านั้น
Casio G-Shock GMW-B5000BP-6 ความงามของยามค่ำคืนที่คุณไม่ควรพลาด
-
การพัฒนาต่อเนื่องในการนำเสนอความงามบนตัวเรือนของรุ่น GMW-B5000 ด้วยความงามยามค่ำคืนของโตเกียว
-
ความเด่นอยู่ที่การพัฒนาการเคลือบสีสันบนตัวเรือนโลหะที่ Casio เรียกว่า CMF พร้อมโมดุลที่สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธ
-
มีการเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยเพียง 90 เรือนเท่านั้น
ในช่วง 2-3 ปีที่แล้ว Casio G-Shock นำนาฬิการุ่นคลาสสิคของตัวเองมาปรับเปลี่ยนวิธีในการนำเสนอใหม่ โดยเฉพาะการใช้ตัวเรือนและสายที่ผลิตจากโลหะ แน่นอนว่าที่ผ่านมา พวกเขาเปิดตัวออกมาหลายรุ่น แต่ที่เด่นและถือเป็น Hi-End Line ก็คือ GMW-B5000 Series ซึ่งมีการเปิดตัวออกมาอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2018 และที่เป็นรุ่นล่าสุดคือ GMW-B000PB-6 ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในแนวคิด Twilight Tokyo
คงทราบกันดีใช่ไหมครับว่า GMW-B5000 Series ถูกเปิดตัวออกมาในช่วงฉลองครบรอบ 35 ปีของแบรนด์ G-Shock และคอนเซ็ปต์ในตอนนั้นคือการนำนาฬิการุ่นคลาสสิคกลับมาผลิตใหม่ ซึ่ง GMW-B5000 คือ การนำรุ่น DW5000 ที่ถือเป็น G-Shock รุ่นแรกมาตีความใหม่ด้วยอะไรก็ตามที่มีความทันสมัย เช่น ตัวเรือนโลหะ โมดุลที่ทันสมัยซึ่งก็มี Tough Solar และที่ขาดไม่ได้คือ การเชื่อมต่อผ่านบลูทูธตามแนวคิด Casio Connected ของพวกเขา
สำหรับ GMW-B000PB-6 ก็มาพร้อมกับสิ่งเหล่านั้น แต่ที่เหนือกว่าคือ การนำเสนอสีสันและความสวยงามที่น่าสนใจตรงตามคอนเซ็ปต์ของตัวนาฬิกาที่สื่อถึงทองฟ้ายามค่ำคืนของมหานครโตเกียว ที่เต็มไปด้วยแสงสีและสีสันที่สวยงาม ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสอดคล้องกันและลงตัวอย่างมาก
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับนาฬิกาเรือนนี้ และผมมองว่าเป็นไฮไลท์เลยก็คือ ตัวเรือนและสายโลหะที่ผ่านการตกแต่งด้วยการเคลือบไอพี โดยสีม่วงและสีฟ้าเทานี้คือแนวทางใหม่ของดีไซน์แบบ CMF ซึ่งเป็นการการออกแบบที่ผสานการรวมสี วัสดุ และการตกแต่งเข้าไว้ด้วยกัน
สีสันที่ได้เกิดจากแรงบันดาลใจของทัศนียภาพอันงดงามของเมืองโตเกียวยามพลบค่ำในช่วงเวลาที่ความสว่างกับความมืดเคลื่อนมาบรรจบกัน กรอบตัวเรือนและสายโดดเด่นด้วยการเคลือบไอพีม่วงโทนใหม่ได้จากการปรับความเข้มของสีและความสว่างร่วมกับมิติอันล้ำลึกและซับซ้อนของการเคลือบไอพีสีฟ้าเทา ผสานเข้ากับความล้ำลึกของเนื้อสีและลายเส้นตกแต่งละเอียดด้วยการขัดเงา
คุณสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้เวลาที่ตัวนาฬิกาส่องกระทบกับแสงและเล่นกับมันอย่างสวยงาม ต้องบอกเลยครับว่าถือเป็นนาฬิกาอีกรุ่นในซีรีส์นี้ที่สะดุดตาผมอย่างมาก ต่อจาก 2 เรือนแรกที่ผมประทับใจมาก ซึ่งก็คือ GWM-B5000D รุ่นแรก และ GWM-B5000TR-9 ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาไม่นานก่อนหน้านี้
ตัวเรือนเป็นโลหะ บางคนอาจจะถามต่อว่าแล้วมันจะมีความทนทานต่อแรงกระแทกได้มากน้อยแค่ไหน ?
คำตอบคือ ได้อย่างแน่นอนเพราะก่อนที่นาฬิกาของ G-Shock จะถูกส่งออกมาขาย จะต้องผ่านมาตรฐานการทดสอบที่โหดๆ ของพวกเขา และในรุ่น GWM-B5000 ทุกรุ่นก็มีการออกแบบให้ใช้โครงสร้างแบบพิเศษและมีการใช้วัสดุอย่างเรซินมาครอบที่ตัวโมดุลอีกชั้นเพื่อคั่นกลางระหว่างโมดุลกับกรอบโลหะ
แต่สิ่งที่จะต้องระวังก็คงเป็นเรื่องของรอยที่จะเกิดขึ้นบนตัวเรือนจากการกระแทกแรงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรซินหรือโลหะ ถ้ากระแทกแรงๆ เกิดรอยแน่นอน แต่ผมเชื่อนะครับว่าสุดท้ายแล้วคนที่เลือก G-Shock ในตระกูลนี้ เรื่องลุยคงเป็นประเด็นรองแล้ว เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครใส่ไปลุยภายใต้สภาพโหดๆ แน่ๆ
ดีไซน์และความคลาสสิคคือ จุดเด่นหนึ่ง แต่อีกจุดคือ การพัฒนาโมดุล 3459 ให้มีความสามารถมากขึ้น และดูเหมือน Casio นำเทคโนโลยีในเรื่องของการปรับเวลามาใช้แบบเต็มที่เลย เริ่มจากระบบ Multiband 6 ที่คุณสามารถปรับเวลาในหน่วยวินาทีให้ตรงกับคลื่นวิทยุซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ 6 เสาทั่วโลก แต่เมืองไทยไม่มี ตามด้วยการปรับเวลา
ส่วนอีกจุดของการปรับเวลาคือ การปรับเวลาผ่านการ Sync กับแอพลิเคชั่นในมือถือด้วยฟังก์ชั่น Mobile Link ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็วมาก ใช้ไม่ยาก (แสดงวิธีการใช้งาน) แต่น่าเสียดายนะครับที่ฟังก์ชั่นและลูกเล่นของนาฬิกาเรือนนี้ยังเรียบๆ ไปหน่อย มีแค่พวกแสดงเวลาทั่วโลก การจับเวลาเดินหน้าถอยหลัง หรือ การตั้งปลุก ซึ่งถือว่าเป็นฟังก์ชั่นเบสิกของ G-Shock
ผมเคยมี GMW-B5000D และบอกเลยว่าเป็นนาฬิกาที่ผมชอบมาก เป็นการเปลี่ยนแนวคิดของผมกับ G-Shock และแสดงให้เห็นว่า พวกเขาก็สามารถทำนาฬิกาให้ดูพรีเมียมเหมาะกับการแต่งกายในวันทำงานได้ ไม่ใช่มีแต่นาฬิกาพันธุ์อึดที่พอสวมแล้วก็เกิดอารมณ์อยากลุยเพียงอย่างเดียว
จุดเด่นของ Casio G-Shock GMW-B5000BP-6 และรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์นี้ ในแง่มุมของผมคือ ขนาดที่กำลังดี 43.2 มิลลิเมตรในส่วนเส้นผ่านศูนย์กลาง 49.3 ในส่วน Lug to Lug และ 13.0 มิลลิเมตรในแง่ความหนา ถือเป็นนาฬิกาที่เหมาะกับทุกข้อมือ
ที่สำคัญคือ คุณอย่าหลงประเด็นเพราะดูแค่ตัวเลข เพราะเอาเข้าจริงๆ ตัวเลขแค่นี้กับนาฬิกา G-Shock มันแทบไม่ได้ใหญ่อะไรเลย และอารมณ์ที่คาด GMW-B5000PB-6 อยู่บนข้อมือนั้นไม่ได้ต่างกันกับการสวมนาฬิกากลไกกลุ่มสปอร์ตไซส์ 42 มิลลิเมตร ที่มีขาสายยาวหน่อย เหมาะกับชุดทำงาน และเหมาะกับชุดลำลองในวันหยุด
แน่นอนว่าแนวคิดของการสีสันบนตัวเรือน G-Shock ทำได้ดีและสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทำให้ GMW-B5000PB-6 มีความโดดเด่นด้วยประกายความงามของเหลื่อมสีที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวตัวเรือน
ส่วนโมดุลนั้น บอกว่าการเข้ามาของแอพพลิเคชั่นและบลูทูธคืออะไรที่ทำให้ชีวิตของชาว G-Shock สะดวกขึ้นเยอะ เพราะคุณไม่ต้องมานั่งกดปุ่ม Adjust ค้าง 2-3 วินาทีเพื่อปรับเวลาอีกต่อไป แค่ Sync กับแอพพลิเคชั่น แล้วปรับตั้งเวลาจากในนั้นได้เลย เช่นเดียวกับการสลับเวลา Home Time และ Local Time ที่สามารถทำได้ผ่านทางนี้เลย สะดวกและรวดเร็ว
มาถึงตรงนี้ผมยังนึกไม่ออกถึงเหตุผลที่จะปฏิเสธเจ้า GMW-B5000PB-6 ได้เลย เพราะถ้าจะยกเรื่องราคามาเป็นเหตุผลในการโต้แย้ง ผมคงต้องบอกว่าอย่ามอง G-Shock ด้วยภาพแบบเดิมๆ เพราะพวกเขาก็เหมือนกับนาฬิกาหลายแบรนด์ในตลาด ที่มีนาฬิกาหลายรุ่นซึ่งครอบคลุมทุกความต้องการในตลาด ด้วยนาฬิกาที่มีราคาตั้งแต่หลักพันยันหลักแสน
ถ้าคุณได้สัมผัสกับชิ้นงานและรายละเอียดที่เกิดขึ้นบนตัวเรือนโลหะของ GMW-B5000PB-6 ซึ่งลงตัวและดูประณีตแล้ว ผมว่านี่คือความแตกต่างที่นาฬิกาเรือนนี้มอบให้และเป็นเหตุผลหลักของการตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของ ที่สำคัญ นาฬิกาเรือนนี้นำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยเพียง 90 เรือนเท่านั้น ส่วนราคาอยู่ที่ 28,000 บาท
ถ้าตัดสินใจช้า การตามหาในภายหลังคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างแน่นอน
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-Shock GMW-B5000BP-6
โครงสร้าง | ต้านทานแรงกระแทก | |
การกันน้ำ | 200 เมตร | |
ความถี่วิทยุ | 77.5 กิโลเฮิร์ตซ์ (DCF77: เยอรมนี); 60 กิโลเฮิร์ตซ์ (MSF: สหราชอาณาจักร); 60 กิโลเฮิร์ตซ์ (WWVB: สหรัฐอเมริกา); 40 กิโลเฮิร์ตซ์ (JJY: ฟุกุชิมะ ญี่ปุ่น) / 60 กิโลเฮิร์ตซ์ (JJY: คิวชู ญี่ปุ่น); 68.5 กิโลเฮิร์ตซ์ (BPC: จีน) | |
ข้อกำหนด
การสื่อสาร |
มาตรฐาน
การสื่อสาร |
Bluetooth® (บลูทูธ) ชนิดใช้พลังงานต่ำ |
ระยะสัญญาณ | สูงสุดถึง 2 เมตร (อาจต่างไปจากนี้โดยขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม) | |
เวิลด์ไทม์
แสดงเวลาเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก |
เวลาโลก 5 เวลา เลือกจาก 39 เมือง (39 เขตเวลา, *เปิด/ปิด เวลาออมแสง) และเวลาสากลเชิงพิกัด, แสดงชื่อเมือง, สลับตำแหน่งระหว่างเวลาเมืองถิ่นฐาน/เวลาเมืองเวิลด์ไทม์, การสลับเป็นเวลาฤดูร้อน (เวลาออมแสง) โดยอัตโนมัติ
*อาจถูกปรับค่าเมื่อทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน |
|
นาฬิกาจับเวลา | 1/100 วินาที (00’00”00~59’59”99) / 1 วินาที (1:00’00”~23:59’59”); ระยะการจับเวลา: 23:59’59.99”; โหมดการจับเวลา: เวลาที่ผ่านไป,
จับเวลาแบบแบ่งช่วง, จับเวลาของอันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 |
|
นาฬิกาจับเวลาถอยหลัง | หน่วยการจับเวลา: 1 วินาที (สูงสุด 24 ชั่วโมง) | |
นาฬิกาปลุก | นาฬิกาปลุกที่ทำงานทุกวัน ตั้งค่าได้ 5 ครั้ง (พร้อมระบบปลุกซ้ำ 1 ครั้ง); สัญญาณแจ้งเวลารายชั่วโมง | |
ฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ | ฟังก์ชันสมาร์ทโฟนลิ้งค์ (เวลาโลก: มากกว่า 300 เมือง + เมืองที่เพิ่มโดยผู้ใช้, การปรับตั้งเวลาโดยอัตโนมัติ, การตั้งค่านาฬิกาอย่างง่ายดาย); เวลาและสถานที่; เตือนความจำ; ตามหาโทรศัพท์; สลับตำแหน่งแสดงวันที่/เดือน;
แสดงวัน (ในภาษาอังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาเลียน หรือรัสเซีย); ปฏิทินอัตโนมัติโดยสมบูรณ์; รูปแบบเวลา 12/24 ชั่วโมง; เปิด/ปิด เสียงแจ้ง การทำงานของปุ่มกด; ไฟ LED (แอลอีดี) สำหรับพื้นหลังแบบอัตโนมัติ โดยสมบูรณ์ (ซูเปอร์ อิลลูมิเนเตอร์ และหน่วงระยะเวลาการเปล่งแสงได้: 2 หรือ 4 วินาที, หน่วงแสงแบบค่อย ๆ สว่างขึ้นและค่อย ๆ ดับลง); แจ้งเตือนเมื่อระดับพลังงานแบตเตอรี่ต่ำ |
|
แหล่งพลังงาน | ระบบพลังงาน ทัฟโซลาร์ (ระบบประจุพลังงานด้วยแสง) | |
การทำงานอย่างต่อเนื่อง | ประมาณ 22 เดือนเมื่อเปิดใช้ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน* หลังจากประจุไฟจนเต็ม
*ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานจะทำงานเมื่อนาฬิกาอยู่ในที่มืดจนถึงระยะเวลาที่ถูกกำหนดไว้ |
|
ขนาดของตัวเรือน | 49.3 × 43.2 × 13.0 มิลลิเมตร | |
น้ำหนักรวม | ประมาณ 167 กรัม |
- ประทับใจ : สีสันที่สวยงามและลงตัว ขนาดกำลังดีเหมาะทั้งการใช้งานที่หลากหลาย
- ไม่ประทับใจ : ไม่มี
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/