Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 เด่นทั้งตัวนาฬิกาและสตอรี่

0

นาฬิกาอีกรุ่นที่ถือว่าโดนใจและถูกใจอย่างมากตั้งแต่เรื่องราวของการทำ Collaboration การเลือกรุ่นมาใช้ในการทำรุ่นพิเศษ บวกกับแพ็คเกจจิ้งที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และแน่นอนว่ารุ่นที่โดนตาและสีโดนใจจนต้องซื้อมาติดกรุคือ Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าเต่าบก สัญลักษณ์ของเกาะกาลาปากอส

- Advertisement -

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 เด่นทั้งตัวนาฬิกาและสตอรี่

  • การทำงานร่วมกันของ Casio กับมูลนิธิ Charles Darwin จนได้นาฬิการุ่นพิเศษ

  • ใช้พื้นฐานของนาฬิการุ่น GM-B5600 มีให้เลือก 3 แบบพร้อมการตกแต่งและสร้างเรื่องราวสอดคล้องกับสัตว์บนเกาะกาลาปากอส

  • แพ็คเกจมีการออกแบบเฉพาะ พร้อมใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อแสดงถึงพันธสัญญาแห่งความยั่งยืน

ผมเห็นนาฬิกาเรือนนี้ครั้งแรกในงาน Press Conference ตอนที่รับเชิญไปงาน Shock the world ของ G-SHOCK ที่บาหลีเมื่อเดือนธันวาคม นับจากตอนนั้น เจ้านี้ถูกจับใส่ใน Wish List และผมก็บอกกับตัวเองว่าจะต้องไม่พลาด ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน คอลเล็กชั่นที่ Casio G-SHOCK จับมือกับมูลนิธิ Charles Darwin ก็มีเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย และ Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของคอลเล็กชั่นนี้ ก็เข้ามาอยู่ในกรุของตัวเองพร้อมกับคำแรกที่ผุดขึ้นมาอยู่ในความคิดคือ คุ้มค่ามากกับการรอคอย

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

มีอยู่ 3 เรื่องที่เป็นปัจจัยซึ่งทำให้ผมตัดสินใจซื้อ Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 อย่างแรกคือ ผมชอบเรื่องของเกาะกาลาปากอส ซึ่ง Charles Darwin นักชีววิทยาชาวอังกฤษ ได้เข้าไปศึกษา และเปิดโลกแห่งความซับซ้อนในเชิงธรรมชาติของพื้นที่แห่งนี้ พร้อมกับทฤษฎีวิวัฒนาการ หรือหลักการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ออกสู่สาธารณะผ่านทางหนังสือ On the Origin of Species ซึ่งในปัจจุบัน เกาะกาลาปากอสได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤตเพราะการรุกรานของมนุษย์

ผมชอบเต่าบกกาลาปากอส เพราะจำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีภาพของเจ้าเต่าบก หรือที่เรียกว่า Tortoise ตัวมหึมาปรากฏอยู่ มั่นเป็นความประทับใจในวัยเด็ก ที่ส่งผลมาต่อการตัดสินใจเลือกรุ่น Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 ที่มากับตัวเรือนสีเหลือง แทนที่จะเป็นรุ่น Casio G-SHOCK GM-B5600CD-1A2 และ Casio G-SHOCK GM-B5600CD-1A3 ซึ่งมากับตัวเรือนสีดำและหาโอกาสในการสวมใส่ได้ง่ายกว่า

ข้อที่ 2 นาฬิกาเรือนนี้แตกต่างจากรุ่นพิเศษทั่วไปของ Casio คือ มากับกล่องและแพ็คเกจที่สวยงาม แถมตัวนาฬิกายังหุ้มด้วยถังผ้าป่านที่มีการสกรีนภาพของเจ้าเต่าบกตัวใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ เช่นเดียวกับมูลนิธิ Charles Darwin ที่ดูแลเกาะแห่งนี้เป็นหน่วยงานที่ Collaboration กับ Casio โดยทั้งสีกล่องหลักและรูปภาพที่อยู่บนกล่องจะแตกต่าง

ออกไปตามสัตว์ถูกที่นำเสนอผ่านทางนาฬิกาเรือนนั้น เช่น ฉลามหัวค้อน และนกฟินซ์ ซึ่งถือเป็นอีกสัญลักษณ์ของเกาะ

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

และข้อสุดท้ายคือ ผมหลงหลักนาฬิกาในกลุ่ม 5600 หรือ 5000 Series ของ Casio G-SHOCK ผมยังชอบนาฬิกาในกลุ่ม Master of G แต่ 5600 Series กลายเป็นนาฬิกาที่พอได้ลองแล้ว รู้สึกว่าเป็น G-SHOCK ที่เจ๋งสุดๆ ขนาดกำลังดี ฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อนวุ่นวาย แถมยังใส่ได้ในชีวิตประจำวันแบบลงตัวไม่ว่าจะเที่ยวหรือใส่กับเสื้อเชิร์ตตอนไปทำงาน อีกทั้งรูปทรงเหลี่ยมที่ถูกพัฒนามาจาก DW-5000C ซึ่งเป็น G-SHOCK เรือนแรกทำให้นาฬิกาเรือนนี้เป็น Iconic ที่แฟน G-SHOCK จะต้องมีอยู่ในกรุ

OK…ในคอลเล็กชั่นนี้ผมเลือกเจ้า Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 เพราะชอบเต่ากาลาปากอส แต่ที่อยู่เหนืออื่นใด คือ ผมอยากได้นาฬิกาสีเหลืองของ 5600 Series มานานละ แต่ยังไม่เจอเรือนที่สวยและถูกใจสักที แถมรุ่นที่นำมาใช้ทำในคอลเล็กชั่นยังเป็น GM-B5600 ที่มีความแตกต่างจาก 5600 Series อย่างพวก DW หรือ GM-W ด้วยรูปแบบของฝาหลังที่เป็นแบบปาดเรียบ เช่นเดียวกับฟังก์ชั่นของโมดุลที่แตกต่างกันด้วย อีกทั้งภาพจำที่ติดอยู่ในหัวผมเสมอของ GM-W5600 คือ เป็น 5600 Series ในระดับไฮเอนด์ เพราะมีขายอยู่ในญี่ปุ่น และบางประเทศในยุโรปและอเมริกา…ทุกอย่างลงตัวเป๊ะ

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9 เป็นนาฬิการุ่นเดียวที่มากับสีเหลือง เพราะที่เหลือใช้ตัวเรือนดำ และมีหน้าจอเป็นสีเขียวและฟ้าขึ้นอยู่กับเรื่องที่ต้องการเล่าว่าสัมพันธ์กับอะไร โดยทั้ง 3 เรือนจะเป็นตัวแทนของเรื่องในน้ำ บนบก และบนอากาศของสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ในเกาะกาลาปากอส

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

ตัวนาฬิกามีการแต่งเติมรายละเอียดให้แตกต่างจากรุ่นปกติ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นที่ของกรอบที่อยู่รอบหน้าปัด ซึ่งจะมากับลายกระดองเต่าและตรงมุมขวาล่างจะมีรูปทรงของเต่าบก ตัวฟอนต์ที่เซาะร่องอยู่บนกรอบตัวเรือนไม่มีการลงสีใดๆ ซึ่งส่วนตัวผมว่าโอเคเลย

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

เพราะไม่แย่งซีนความเด่นจากรายละเอียดที่อยู่บนกรอบรอบๆ หน้าปัด บนสายยางจะมีการสกรีนข้อความที่ว่า Apoyo la conservación de Galápagos บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของคุณในการปกป้องหมู่เกาะนี้ ขณะที่ตัวรัดสายบนสายสั้นจะมีการสลักรูปร่างของสัตว์ที่ประจำอยู่ในนาฬิกาเรือนนั้นๆ อย่างรุ่นนี้ก็จะเป็นรูปของเต่าบก ส่วนฝาหลังจะสลักรูปเต่าบกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมูลนิธิ Charles Darwin

Charles Darwin Foundation เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่ดำเนินงานสถานีวิจัย Charles Darwin Research Station ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศแห่งแรกที่มีส่วนร่วมในหมู่เกาะกาลาปากอส โดยเริ่มต้นในปี 1959 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 100 คนจากทั่วทุกมุมโลกที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการสำรวจสิ่งมีชีวิตทางทะเลและภาคพื้นดินและระบบนิเวศของหมู่เกาะกาลาปากอส ส่งเสริมความพยายามในการอนุรักษ์ธรรมชาติของเกาะ และให้การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมแก่ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น

สำหรับ GM-B5600CD-9 เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาซีรีส์อื่นๆ ของ 5600 แล้วถือว่ามีขนาดค่อนข้างพอดีและลงตัว และใกล้เคียงกับ DW-5600 รุ่นพื้นฐานด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.8 มิลลิเมตร ขณะที่ Lug to Lug อยู่ที่ 48.9 มิลลิเมตร และความหนา 13.4 มิลลิเมตรที่ส่วนตัวผมมองว่าลงตัวและสวมใส่ได้อย่างสบายๆ ไม่เทอะทะ

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

อีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ตัวนาฬิกาใช้วัสดุที่เป็น Biomass Plastic ในการผลิตตัวเรือนและสาย ซึ่งถือเป็นอีกพันธสัญญาในการช่วยลดการใช้พลาสติก และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของพลาสติกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่มีใครพิสูจน์ว่า Biomass Plastic ที่เป็นการสกัดขึ้นมาจากพืชและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จะอยู่กับเราได้นานเท่าไร เมื่อเปรียบเทียบกับกรอบเรซินปกติ เพราะ Casio เพิ่งนำวัสดุประเภทนี้มาใช้ได้เพียง 2 ปีเท่านั้นเอง

Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9Casio G-SHOCK GM-B5600CD-9

ในรุ่นนี้มากับโมดุลรหัส 3540 เป็นโมดุลรุ่นใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth ได้ โดยฟังก์ชั่นการใช้งานส่วนใหญ่ไม่มีอะไรซับซ้อน เช่น ตั้งเวลา ตั้งปลุก จับเวลาถอยหลัง ตั้งการแสดงเวลา World Time ได้ 5 เมืองที่คุณต้องการจากบรรดาเมืองต่างๆ ที่อยู่ใน 39 โซนเวลาทั่วโลก เป็นฟังก์ชั่นง่ายๆ แต่จำเป็นสำหรับการใช้งานของคนทั่วไป พร้อมระบบ Tough Solar ในการเปลี่ยนแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อลดภาระการใช้แบตเตอรี่เหมือนนาฬิกาควอตซ์ทั่วไป

นาฬิกาสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าสู่ Application CASIO WATCHES ใช้งานง่ายและสะดวก การเชื่อมต่อไม่วุ่นวาย แค่กดปุ่มตรงตำแหน่ง 8 นาฬิกาค้างเอาไว้ 3 วินาที พร้อมกับดูหน้าจอตรงมุมบนขวาว่ามีคำว่า CNCT ขึ้นมาเท่านี้ก็จบ และคุณแทบจะไม่ต้องมานั่งอ่านแมนนวลเพื่อทำความเข้าใจกับตัวนาฬิกาเหมือนกับสมัยก่อนๆ ส่วนการปรับเวลาก็ทำง่ายและเที่ยงตรง เพราะนอกจากจะใช้ Multiband 6 (ซึ่งบ้านเราไช้ไม่ได้) ก็ยังมีการปรับตาม Server Time เวลาที่นาฬิกาเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน

ในรุ่นนี้ใช้การส่องสว่างของไฟแบบ LED แล้วไม่ใช่ EL Backlight สีสันของหน้าปัดสว่างและนวลตาขึ้น โดยแต่ละรุ่นจะมีภาพของสัตว์ประจำรุ่นปรากฏตัวขึ้นมาด้วย ซึ่งในกรณีของ GM-B5600CD-9 คือ เจ้าเต่านั่นเอง

สรุปโดยรวม  GM-B5600CD-9 เป็นนาฬิกาที่ใส่ง่าย มีสีสันสวยงาม ฟังก์ชั่นครบครันสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญคือ มีสตอรี่ที่ดี ส่วนราคาอยู่ที่ 6,600 บาท ถือว่าไม่แพงจนเกินไป สูงกว่าพวก DW-5600 รุ่นพิเศษนิดหน่อย แต่ได้ความพิเศษมากกว่าในแง่ของโมดุลที่ทำงานได้หลากหลาย

รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK GW-B5600CD-9

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42.8 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 48.9 มิลลิเมตร
  • ความหนา: 13.4 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือนและสาย: Biomass Plastic Resin
  • กระจก: Mineral
  • โมดุล: 3540 Tough Solar, Multiband6, Bluetooth Connected
  • การกันน้ำ: 200 เมตร
  • ประทับใจ : รุ่นนาฬิกาที่นำมาทำการ Collaboration, สตอรี่, แพ็คเกจ และสีสันของตัวนาฬิกา
  • ไม่ประทับใจ : ไม่มี