Casio G-Shock GBD-800 ดูง่ายกว่ากับหน้าจอดิจิตอล

0

Casio คลอดนาฬิกาออกกำลังกายอีกรุ่นหนึ่งต่อจากที่ GBA-800 โดยใช้ดีไซน์ของตัวเรือนเดียวกัน ต่างกันแค่สีสัน และ Module ที่อยู่ข้างใน

Casio G-Shock GBD-800
Casio G-Shock GBD-800 ดูง่ายกว่ากับหน้าจอดิจิตอล

Casio G-Shock GBD-800 ดูง่ายกว่ากับหน้าจอดิจิตอล

  • Casio G-Shock GBD-800 ทางเลือกใหม่นาฬิกาออกกำลังกายดิจิตอล
  • ใช้พื้นฐานเดียวกับ GBA-800 แต่เปลี่ยน Module ใหม่
  • จะเริ่มขายในญี่ปุ่นวันที่ 14 กันยายนนี้
- Advertisement -

หลังเปิดตัวนาฬิกาในคอลเล็กชั่น G-Squad จาก G-Shock ออกมาเอาใจบรรดาคนรักสุขภาพกันอยู่พักหนึ่ง ในตอนนี้ทาง Casio ขยับแนวรุกเจาะตลาดเพื่อคนออกกำลังกายอีกระลอกกับของเล่นใหม่ที่ชื่อว่า GBD-800 กับความเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Module ที่เมินหน้าปัดแบบ Analogue และ Digital มาเป็นแบบ Digital อย่างเดียวเลย

แน่นอนว่าเมื่อดูจากหน้าตาแล้ว หลายคนตั้งคำถามตามมาว่าแล้วระหว่าง GBA กับ GBD มันต่างกันอย่างไร ? ซึ่งเมื่อมองจากภาพรวมแล้ว เราเชื่อว่าไม่ต่างในแง่ของขนาดตัวเรือน ซึ่งเรียกว่าน่าจะสลับทดแทนกันได้ และถ้าดูจากรหัสรุ่นแล้วก็น่าจะอยู่ในคลาสเดียวกัน ต่างกันแค่การแสดงผล ซึ่งก็คือ GBA ตัวท้ายคือ Analogue ซึ่งหมายถึงเข็ม ส่วน GBD ตัวท้ายคือ Digital ซึ่งก็คือการแสดงผลหน้าจอแบบดิจิตอล

ในตอนนี้มีการเปิดตัวออกมา 4 รุ่นย่อยด้วยกันคือ GBD-800-1JF, GBD-800-2JF, GBD-800-4JF, และ GBD-800-8JF โดยคาดว่าไซส์ของตัวเรือนก็ไม่น่าจะต่างจาก GDA-800 สักเท่าไร ซึ่งก็มีตัวเลขอยู่ที่ 48.6 มิลลิเมตรสำหรับเส้นผ่านศูนย์กลาง 54.1 มิลลิเมตรสำหรับ Lug to Lug และหนา 15.5 มิลลิเมตร

สิ่งที่เรายังไม่ทราบคือ Module ที่ใช้ในรุ่นนี้ว่าจะเป็นแบบไหน และทาง Casio ยังไม่เปิดเผยออกมา แต่เชื่อว่าจะมีความสามารถในการรองรับกับความต้องการของคนออกกำลังกายได้เหมือนกับที่ GBA-800 มี โดยใช้ Bluetooth เป็นตัวเชื่อมต่อกับ Smartphone โดยฟังก์ชั่นหลักๆ ที่มีอยู่ในตัวนาฬิกา ก็เช่น การนับก้าว หรือ Steptracker ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ตัวเร่งแบบ 3 แกน โดยจะเชื่อมต่อกับ Application G-Shock Connected บนสมาร์ทโฟนเพื่อโอนข้อมูลและนพมาวิเคราะห์ในการคำณวณการเผาผลาญแคลลอรี่ ระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกาย

มาแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนการขายจริงยังไม่ได้เริ่มตอนนี้ แต่ละเริ่มทำตลาดได้ในวันที่ 14 กันยายนนี้ โดยราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 13,500 เยน หรือ 4,300 บาท