Casio เอาใจสายออกกำลังกายด้วยการจับเอาความคลาสสิคมาผสมผสานกับฟังก์ชั่นที่เกิดมาเพื่อคนที่รักการออกกำลังกายกับรุ่น Casio G-Shock G-Squad DW-H5600 ขับเคลื่อนด้วยโมดุล 3516 แบบ Solar Powered พร้อม Heart Rate Sensor โดยจะมีจำหน่าย 2 แบบทั้งตัวเรือนเรซิน และตัวเรือนไฮบริดระหว่างเรซินกับสแตนเลสสตีล
Casio G-Shock G-Squad DW-H5600 จับความคลาสสิคเข้าสายออกกำลังกาย
-
นำนาฬิการุ่นคลาสสิคอย่าง DW-5600 มาเพิ่มความสามารถสำหรับเอาใจสายออกกำลังกาย
-
ขับเคลื่อนด้วยโมดุล 3516 แบบ Solar Powered พร้อม Heart Rate Sensor
-
มีจำหน่าย 2 แบบทั้งตัวเรือนเรซิน และตัวเรือนไฮบริดระหว่างเรซินกับสแตนเลสสตีล
ในที่สุด Casio G-Shock ก็ทำในสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้คาดคิดเอาไว้ นั่นคือ การขยายไลน์อัพของนาฬิกาออกกำลังกายในกลุ่ม G-Squad มายังโมเดลคลาสสิคที่เป็น Iconic ของแบรนด์ เพราะนับจากการเปิดตัวนาฬิกากลุ่มนี้ออกมาในปี 2018 พวกเขาเลือกที่จะพัฒนาโมเดลใหม่ขึ้นมาเพื่อตลาดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ จนกระทั่งถึงตอนนี้ เมื่อ Casio G-Shock เปิดตัว G-Squad DW-H5600 ขึ้นมากับการผสมผสานฟังก์ชั่นการออกกำลังกายให้เข้ากับตัวเรือนทรงเหลี่ยมของนาฬิการุ่น DW-5600
ตรงนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Casio G-Shock นำนาฬิการุ่นคลาสสิคของตัวเองมาขยายขีดความสามารถในการทำงานให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า โดยตัวเรือนเมื่อเปรียบเทียบกับ DW-5600 แล้วถือว่า DW-H5600 มีการขยายขนาดขึ้นในทุกสัดส่วน ตามตารางข้างล่าง และที่เด่นชัดสุดคือ เรื่องของความหนาที่เพิ่มขึ้นถึง 3 มิลลิเมตร
ในแง่ของรูปลักษณ์นั้นยังถือว่าถอดแบบมาจาก DW-5600 ที่ถือว่าเป็นทายาทสายตรงมาจาก G-Shock เรือนแรกที่เปิดตัวในปี 1983 อย่าง DW-5000C โดยในรุ่นใหม่นี้จะมาทั้งรุ่นที่เป็นเรซินทั้งหมด และรุ่นวัสดุผสมโดยใช้กรอบตัวเรือนแบบ Hybrid Resin
ซึ่งมีการผสมผสานระหว่างชิ้นส่วนที่ผลิตจากเรซินเข้ากับขอบตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล โดยในส่วนที่เป็นเรซิน เช่น ตัวเรือน และสายนั้นได้รับการผลิตจาก Bio-Mass Plastic ที่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ โดยในช่วงแรกที่มีทำตลาดจะประกอบด้วยรุ่น
- DW-H5600-1JR รุ่นเรซินตัวเรือนและสายสีดำ ราคา 41,800 เยน
- DW-H5600-2JR รุ่นเรซินตัวเรือนและสายสีฟ้าอมเขียว ราคา 41,800 เยน
- DW-H5600MB-1JR รุ่นเรซินตัวเรือนและสายสีดำ กรอบตัวเรือนสแตนเลสสตีล ราคา 44,000 เยน
- DW-H5600MB-2JR รุ่นเรซินตัวเรือนและสายสีน้ำเงิน กรอบตัวเรือนสแตนเลสสตีล ราคา 44,000 เยน
- DWH5600EX-1JR รุ่นพิเศษกรอบตัวเรือนสแตนเลสสตีล พร้อมกับมีการเพนท์ลายพิเศษ อีกทั้งยังมีกรอบตัวเรือนและสายสำรองให้อีกชุด ราคา 60,500 เยน
ทุกรุ่นมากับหน้าจอแบบ MIP LCD ที่มีความคมชัดในการอ่านค่าบนหน้าจอ และด้านหลังเมื่อพลิกดูจะพบกับเซ็นเซอร์สำหรับใช้ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจและชีพจร ตัวนาฬิกามากับโมดุล 3516 ที่เป็นแบบ Tough Solar สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นกระแสไฟฟ้าได้
แต่น่าแปลกที่ Casio กลับไม่เลือกใช้คำว่า Tough Solar เอาไว้บนหน้าปัดเหมือนกับนาฬิการุ่นอื่นๆ ที่ใช้ฟังก์ชั่นนี้ แต่มีแค่คำว่า Solar Powered เหมือนกับรุ่น GBD-H1000 ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่านาฬิกาในกลุ่มนี้สามารถชาร์จพลังงานผ่านทางสายชาร์จได้ด้วย ก็เลยเลือกที่จะแยกออกจากระบบ Tough Solar ที่ชาร์จผ่านแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว
ซึ่งจากการคำนวนของ Casio ในกรณีที่มีการเปิดใช้งานนาฬิกา 1 ชั่วโมงต่อวันจะสามารถประมาณ 1 สัปดาห์ และจะอยู่ได้ 35 ชั่วโมงเมื่อมีการเปิดใช้ทั้งโหมดออกกำลังกาย และวัดอัตราการเต้นของหัวใจพร้อมกัน แต่ถ้าปิดระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็จะอยู่ได้ราวๆ 1 เดือน หรือ 11 เดือนเมื่อเข้าสู่โหมด Power Saving หรือ PS ขณะที่การชาร์จผ่านทางสายชาร์จนั้นใช้เวลา 3 ชั่วโมงจึงเต็ม
ตัวโมดุลมาพร้อมกับฟังก์ชั่นมากมาย ทั้งในเรื่องของการวัดระดับความฟิต และวิเคราะห์ผ่านทาง Polar มีความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ นับก้าวเดิน ระดับออกซิเจนในเลือด วัดคุณภาพในการนอน และความสามารถในการหายใจเมื่อออกกำลังกาย โดยฟังก์ชั่นเกือบทั้งหมดที่พบในรุ่น GBD-H2000 มีอยู่ในนาฬิการุ่นนี้
การทำตลาดจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ใครที่สนใจความคลาสสิคของตัวเรือนที่ถูกขยายประสิทธิ์ภาพของการใช้งานด้วยฟังก์ชั่นของการออกกำลังกายที่ครบถ้วน ถือว่านาฬิกาเรือนนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-Shock G-Squad DW-H5600
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 45.5 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 51.1 มิลลิเมตร
- ความหนา :4 มิลลิเมตรสำหรับรุ่นเรซิน และ 16.6 มิลลิเมตรสำหรับรุ่นเรซิน+สแตนเลสสตีล
- น้ำหนัก : 59 กรัมสำหรับรุ่นเรซิน และ 65 กรัมสำหรับรุ่นเรซิน+สแตนเลสสตีล
- กระจก : Mineral Glass
- โมดุล : 3516 แบบ Solar Powered พร้อม Heart Rate Sensor
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline