นาฬิกาที่เปิดตัวในปี 1994 และเคยกลับมาทำตลาดอีกครั้งในปี 2010 ก่อนหายไป ในตอนนี้ Casio ปัดฝุ่นนำนาฬิกาเจ้าของฉายา Jason กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง และจริงอยู่ที่แม้ว่าจะมีรูปร่างและดีไซน์ท้ายเดิม แต่ทว่าในแง่ของนวัตกรรมที่อยู่บนตัวเรือนและโมดุลมีการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย
Casio G-Shock G-B001 Series เมื่อ Jason คืนชีพอีกครั้ง
-
นำนาฬิการุ่น Jason ที่มีจุดกำเนิดในปี 1994 กลับมาอีกครั้ง
-
มีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย และมาพร้อมกรอบและสายซึ่งสามารถเปลี่ยนสลับได้
-
เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นเดือนมกราคม 2023 มีราคาอยู่ระหว่าง 33,000-44,000 เยน
เรียกว่าหลังจากที่เคยกลับเข้ามาสู่ตลาดอีกครั้งหนึ่ง และก็จากไปแบบเงียบๆ ในตอนนี้ Casio เริ่มปัดฝุ่นนำนาฬิการุ่นดังๆ ในอดีตของพวกเขากลับมาทำตลาดอีกครั้ง และในตอนนี้เป็นคิวของ Casio G-Shock G-B001 Series ซึ่งเป็นรุ่นใหม่และถือเป็นทายาทสายตรงของนาฬิกาสุดคลาสสิคที่แฟนๆ ตั้งฉายาว่า Jason โดยเตรียมวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเดือนมกราคมปีหน้ากับ 3 รุ่นย่อย
ย้อนความสักนิด Casio เปิดตัว G-Shock ออกมารุ่นหนึ่งในช่วงปี 1994 โดยประมาณโดยใช้ชื่อรหัสว่า DW-001 แต่นาฬิการุ่นนี้ถูกเรียกว่า Jason ตามหน้าตาที่มีความคล้ายกับหน้ากากฮ็อคกี้น้ำแข็งที่ตัวละครชื่อเดียวกันนี้ในเรื่อง Friday the 13th สวมอยู่ นาฬิการุ่นนี้ได้นับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ แต่ก็ Discontinued และเลิกจำหน่ายไป จนกระทั่งในปี 2016 ทาง Casio ได้นำกลับมาสู่ตลาดอีกครั้งโดยใช้รหัสว่า G-B001 และเปิดตัวออกมาในปี 2010 ซึ่งก็มีการทำตลาดได้สักระยะก่อนเงียบหายไป และมีการกลับมาอีกครั้งในปี 2023 นี้
จริงๆ แล้วแม้ว่าจะดูจากหน้าตา ในเรื่องของการออกแบบ หลายคนอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรแตกต่าง แต่ต้องบอกว่า Casio G-Shock G-B001 Series รุ่นใหม่มีการใช้โครงสร้างตัวเรือนใหม่ทั้งหมด ด้วยการนำแนวคิด Carbon Core Guard มาใช้ พร้อมโครงสร้างตัวเรือนที่เป็นแบบขอบตัวเรือน 2 ชิ้น Dual Bezel โดยด้านในจะผลิตจากสแตนเลส และด้านนอกผลิตจากเรซิน อีกทั้งยังมีโมดุลที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผ่านทาง Bluetooth
ในรุ่นใหม่จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อยคือ
- Casio G-Shock G-B001MVE-9JR : ตัวเรือนสีเหลือง-แดง ราคาอยู่ที่ 44,000 เยน
- Casio G-Shock G-B001MVB-8JR : ตัวเรือนเทา-ดำ-แอนธราไซต์ ราคาอยู่ที่ 33,000 เยน
- Casio G-Shock G-B001MVA-1JR : ตัวเรือนสีดำ-แดง ราคาอยู่ที่ 34,100 เยน
ที่น่าสนใจคือ Casio ออกแบบให้ทุกรุ่นสามารถถอดหน้ากากเปลี่ยนสาย ได้เพื่อเปลี่ยนบุคลิกของตัวนาฬิกา โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมกับ ขอบตัวเรือนสำรองและสายอีกเส้นแถมมาด้วย ซึ่งตัวสายจะมีสปริงบาร์แบบ Quick Change มาให้ทำให้สามารถเปลี่ยนได้อย่างสะดวก
สิ่งที่พิเศษและแตกต่างจากที่ผ่านมาคือ การใช้โมดุลในรหัส 3519 ซึ่งมีการปรับปรุงให้สอดคล้องและรับกับการใช้งานในปัจจุบัน โดยตัวนาฬิกาสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth แต่ยังไม่มี Tough Solar มาด้วย ไม่อย่างนั้นครบเครื่องเลย ส่วนฟังก์ชั่นที่โมดุลรุ่นนี้ทำได้ก็มีทั้งจับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง ตั้งปลุก 5 ครั้งต่อวัน การปรับเวลาตามเมืองที่ไปถึง หรือ World Time Function ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 38 เมืองทั่วโลก หรือถ้าเลือกปรับผ่านสมาร์ทโฟนจะทำได้ถึง 300 เมือง
การทำตลาดจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม 2023 โดยเริ่มจากประเทศญี่ปุ่นก่อน จากนั้นจึงเริ่มทยอยเปิดตัวออกสู่ตลาดแห่งอื่นๆ ทั่วโลก ในเวลาต่อมา
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-Shock G-B001 Series
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 47 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 50.3 มิลลิเมตร
- ความหนา : 18.7 มิลลิเมตร
- กระจก : Mineral
- กลไก : Module 3519 Bluetooth
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline