Casio เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนาฬิกาซีรีส์ 2100 ด้วยตัวเรือนและสายสตีลแบบ Full Metal โดยในช่วงแรกมีทำตลาด 2 รุ่น คือ หน้าปัดดำ และหน้าปัดไอซ์บลู พร้อมตัวนาฬิกาที่มาพร้อมกับระบบ Smart Crown Access หรือเม็ดมะยมในการควบคุมและปรับตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ และมีราคาเริ่มต้น 104,500 เยน
Casio G-SHOCK Full Metal GMC-B2100 โลหะทั้งเรือนบนกลไกอนาล็อค
-
เพิ่มรุ่นให้กับนาฬิกาซีรีส์ 2100 ด้วยตัวเรือนและสายสตีลแบบ Full Metal
-
ในช่วงแรกมีทำตลาด 2 รุ่น คือ หน้าปัดดำ และหน้าปัดไอซ์บลู
-
ใช้ Module 5733 เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และมี Tough Solar
Casio G-SHOCK แตกไลน์ทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาที่มีความทนทานแต่ใช้ตัวเรือนและสายแบบ Full Steel เพื่อสวมใส่ทั้งช่วงเวลาลำลองและเป็นทางการ โดยทางแบรนด์ได้เพิ่มรุ่นใหม่ออกมาแล้ว นั่นคือ Casio G-SHOCK Full Metal GMC-B2100 มากับตัวเรือนแบบสตีลพร้อมกลไกใหม่ในรหัส Module 5733 ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผ่านทาง Bluetooth ได้
สำหรับ Casio G-SHOCK Full Metal GMC-B2100 ถือเป็นการแตกไลน์ทางเลือกมาจาก 2100 Series ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 2019 ด้วยรูปทรงที่อ้างอิงกรอบตัวเรือนแบบ 8 เหลี่ยมซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากนาฬิการุ่นแรกของ Casio G-SHOCK นั่นคือ DW-5000C แน่นอนว่าในตระกูล 2100 มีทั้งรุ่นที่ใช้เรซินในการผลิตตัวเรือนและสายไล่ไปจนถึงตัวระดับไฮเอนด์ที่ใช้วัสดุอย่างสตีลในการผลิตตัวเรือนและสายภายใต้ชื่อ MR-G อย่าง MRG-B2100D ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาเมื่อกลางปี 2024
 |
 |
 |
นอกจากนั้น ในรุ่นนี้ยังมีอีกทางเลือกที่ราคาไม่รีงและเข้าถึงได้โดยใช้สตีลในการผลิตทั้งตัวเรือนและสาย เช่น G-Steel GM-2110D และรุ่น GM-2100 ที่มากับสายยางบนตัวเรือนสตีล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมากับโมดุลที่ใช้ 2 ระบบ คืออนาล็อก และดิจิตอล จนกระทั่งการมาถึงรุ่น GMC-B2100 ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลง เพราะใช้ Module ใหม่ พร้อมกับระบบ Smart Crown Access หรือเม็ดมะยมในการควบคุมและปรับตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ
รุ่นนี้ถือเป็นการแทรกกลางระหว่าง MRG-B2100D และ G-Steel GM-2110D โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 104,500 เยน เช่นเดียวกับความใส่ใจในการขัดแต่งบนตัวเรือน โดยกรอบและตัวเรือนถูกหล่อขึ้นอย่างแม่นยำด้วยกระบวนการดัด ตัด และขัดที่ใช้เวลานาน แม้กระทั่งรูปทรงที่ซับซ้อนของด้านหลังซึ่งกำหนดความแม่นยำในการประกอบ ด้านบนของกรอบได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเส้นขนกลม สายนาฬิกาเลียนแบบรูปทรงรอยบุ๋มของรุ่น G-SHOCK รุ่นแรกด้วยโลหะ และพื้นผิวได้รับการเสริมแต่งโดยมีทั้งลายขัดด้านที่มีเส้น Hairline สวยงาม เช่นเดียวกับบนตัวเรือนที่มีการขัดเงา
นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการปกป้องด้วยวัสดุโลหะทั้งชิ้นที่ใช้สแตนเลสสตีลสำหรับขอบตัวเรือน ตัวเรือน และสาย ส่วนวัสดุกันกระแทกที่ทำจากเรซินชั้นดีถูกติดตั้งไว้ระหว่างขอบตัวเรือนและตัวเรือนเพื่อลดแรงกระแทกที่ส่งไปยังโมดูล นอกจากนี้ ขายึดของตัวเรือนยังมีโครงสร้างสามขา (Three-Leg Structure) เพื่อกระจายแรงกระแทกที่ข้อต่อสาย โดยตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 46.3 มิลลิเมตร
นอกจากรุ่น MRG-B2100D ต้องบอกว่า Casio G-SHOCK Full Metal GMC-B2100 ถือเป็นนาฬิกาอีกรุ่นที่มาพร้อมกับการใช้ Module แบบอนาล็อกในการแสดงผล รวมถึงการมีระบบ Smart Crown Access แบบขันเกลียว เพื่อเข้าถึงการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นต่างๆ โดย Module 5733 ของนาฬิกาเรือนนี้มีฟังก์ชั่นพื้นฐานนอกเหนือการแสดงเวลาแล้ว ยังมีฟังก์ชั่น World Time ที่บันทึกข้อมูลมากกว่า 300 เมืองทั่วโลก ระบบจับเวลาเดินหน้าและถอยหลัง ตั้งปลุก เช่นเดียวกับหน้าปัดซึ่งอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกาในการแสดงเวลาที่ 2 ได้ และสามารถกดปุ่มสลับการแสดงเวลาระหว่าง 2 เมืองที่กำหนดเอาไว้ได้
ตัวนาฬิกาสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth เพื่อเข้าสู่แอพพลิเคชั่น Casio Watches ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการปรับแต่งและตั้งค่าต่างๆ ของตัวนาฬิกาได้จากที่แอพพลิเคชั่นนี้โดยตรงเลย และที่สะดวกคือ Module นี้ใช้ระบบ Tough Solar ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อเก็บในแบตเตอรี่แบบชาร์จได้
รอบแรกในการทำตลาดจะมีการเปิดตัวออกมา 2 รุ่นคือ
- GMC-B2100D-1AJF หน้าปัดดำ มีราคาอยู่ที่ 104,500 เยน
- GMC-B2100AD-2AJF หน้าปัดสีไอซ์บลู มีราคาอยู่ที่ 107,800 เยน
 |
 |
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK Full Metal GMC-B2100
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 46.3 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 51.3 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.4 มิลลิเมตร
- กระจก : Mineral Glass
- กลไก : Module 5733 Tough Solar
การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
