Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF คืนชีพต้นกำเนิดความคลาสสิค

0

Casio G-SHOCK นำความคลาสสิคของรุ่น DW5000C ซึ่งเป็น G-SHOCK รุ่นแรกกลับมาสร้างสรรค์ใหม่ เติมความทันสมัยของทั้งโมดุลและวัสดุจนได้ Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF ที่มีกลิ่นอายของต้นกำเนิด แต่เหนือกว่าด้วยความล้ำสมัยของเทคนิคการผลิตยุคปัจจุบัน

- Advertisement -

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF คืนชีพต้นกำเนิดความคลาสสิค

  • การนำ DW5000C ซึ่งเป็น G-SHOCK รุ่นแรกมาสร้างสรรค์ใหม่

  • สีสันยึดแบบ DW5000C แต่โครงสร้างตัวเรือนข้างในผลิตจากสแตนเลสสตีลและฝาหลังแบบขันเกลียว

  • โมดุลใหม่ในรหัส 3576 พร้อมไฟส่องสว่าง LED และแบตเตอรี่ 5 ปี

G-SHOCK รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 1983 คือ รุ่น DW5000C ดังนั้น ในปีนี้ซึ่งเป็นโอกาสที่อยู่ในช่วงเวลาของการฉลองเข้าสู่ปี 41 ของ G-SHOCK ทางด้านแบรนด์นำความคลาสสิคนี้มาปรับปรุงใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย กับนาฬิการุ่น Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF ซึ่งถอดแบบมาจากรุ่นดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยความทันสมัยของการผลิตนาฬิกายุคใหม่

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

ในปี 1983 G-SHOCK เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกของโลกด้วยนาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมที่มีรหัส DW5000C ซึ่งได้รับการจารึกว่าเป็น G-SHOCK รุ่นแรก และกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์นี้สร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีความทนทานออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการนำ DW5000C มาตีความใหม่ เพื่อให้สอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF
Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

นาฬิกาเรือนนี้มีชื่อว่า Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF และสถานะบนเว็บไซต์ของ Casio ในญี่ปุ่นขึ้น Sold Out เรียบร้อยแล้ว โดยนาฬิการุ่นนี้มีราคา 33,000 เยน ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับ DW5600 รุ่นทั่วไปที่ทำตลาดอยู่ ซึ่งจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 13,000-14,000 เยน โดยนอกจากรุ่นนี้แล้ว ทาง G-SHOCK ยังมีการผลิต RL Series ซึ่งเป็นการนำสีสันของ DW5000C มาใช้กับนาฬิกาที่จัดให้อยู่ในกลุ่ม Iconic Styles เช่น 5600, 6900, 110 Series และ 2100 Series

สาเหตุที่มีราคาแพงกว่ารุ่นธรรมดา 2 เท่า ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะโครงสร้างตัวเรือนด้านในเป็นแบบสตีล ไม่ใช่เป็นเรซินเหมือนกับรุ่นปกติ ขณะที่ฝาหลังเป็นแบบขันเกลียวไม่ใช่ไขน็อตเหมือนกับรุ่นปกติ โดยที่กรอบตัวเรือนภายนอกและสายผลิตจากวัสดุอย่าง Biomass Plastic โดยที่ขนาดตัวเรือนถูกขยับจาก 41.6 มิลลิเมตรในรุ่น DW5000C มาเป็น 42.3 มิลลิเมตรเท่ากับรุ่น 5600 Series

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

อีกจุดที่ถือว่าเด่นและแตกต่างคือ ขอบตัวเรือนเป็นแบบเรียบเท่ากันหมด ไม่ได้มีการยกสูงขึ้นมาเหมือนกับ 5600 Series โดยดีไซน์นี้อ้างอิงมาจาก DW5000C ด้านบนในตำแหน่ง 12 นาฬิกาจะมีตำว่า Protection ส่วนด้านล่างจะเป็นคำว่า G-SHOCK ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขณะที่สีสันซึ่งเป็นเส้นสีแดงดำเหมือนกับ DW5000C ก็มีการนำมาใช้ในรุ่นนี้

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

โมดุลที่ใช้เป็นรหัส 3576 ซึ่งจะต่างจากรุ่น 5600 Series ซึ่งเป็นรหัส 3525 แต่ทว่าเมื่อดูจากสเป็กเปรียบเทียบในแง่ของฟังก์ชั่นนั้น ไม่แตกต่างกัน ทั้งการจับเวลาเดินหน้า 1/100 วินาที จับเวลาถอยกลัง ตั้งปลุก การแสดงเวลา 12/24H การใช้ไฟ Backlight แบบ LED

Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

เพื่อเป็นการเคารพต่อรุ่นดั้งเดิมอย่างถึงที่สุด การผลิตของ Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF จะมีขึ้นที่โรงงานดั้งเดิมของ G-SHOCK ซึ่งในปัจจุบันผลิตเฉพาะพวก Hi-Line ของแบรนด์ ซึ่งก็คือ โรงงานยามากาตะ โดยราคาของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่ 33,000 เยน

รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK DW5000R-1AJF

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42.3 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 48.9 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 13.1 มิลลิเมตร
  • กระจก : Mineral
  • ฝาหลัง : ขันเกลียว
  • โมดุล : รหัส 3576
  • ฟังก์ชั่น : จับเวลาเดินหน้า 1/100 วินาที จับเวลาถอยกลัง ตั้งปลุก การแสดงเวลา 12/24H
  • ไฟส่องสว่าง : LED
  • การกันน้ำ : 200 เมตร