Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 ความลงตัวของคู่สีสปอร์ตแห่งยุค 90

0

คอลเล็กชั่นใหม่ของ Casio G-SHOCK มาพร้อมความน่าสนใจอย่างมากกับการเล่นสีสัน Yellow x Gray ซึ่งเป็นสีสำหรับนาฬิกาสปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1990 และมีจุดเริ่มต้นกับรุ่น DW-001 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Jason ซึ่งเปิดตัวในปี 1994 โดย Casio นำแนวคิดนี้มาใช้กับนาฬิกา 5 รุ่นด้วยกัน แต่ที่โดชนและสะดุดตาเรามากที่สุดคือ Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

- Advertisement -

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 ความลงตัวของคู่สีสปอร์ตแห่งยุค 90

  • คอลเล็กชั่นที่ใช้ 3 สีกลุ่มสปอร์ตที่มีจุดกำเนิดมาจากรุ่น DW-001 หรือ Jason ในปี 1994
  • ตัวนาฬิกาใช้พื้นฐานของ DW-6900 พร้อมการเติมสีอย่างเหลือง เทา และแดงเข้าไปอย่างลงตัว
  • โมดุล 3230 มาพร้อมฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ไม่มีอะไรซับซ้อน และถือว่าคุ้มค่ากับราคา

นอกจาก Frogman แล้ว นาฬิการุ่นหนึ่งของ Casio G-SHOCK ที่สามารถเพิ่มตัวเลขยอดขายได้จากผมเป็นประจำอยู่เสมอก็คือ DW-6900 Series และแน่นอนว่า ตอนที่ได้เห็นภาพคอลเล็กชั่นใหม่ของนาฬิการุ่นนี้ซึ่งมากับการจับคู่สีอย่างลงตัวอย่าง Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 สิ่งที่ผมอุทานออกมาคือ ‘ได้เสียเงินอีกแล้ว’

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

สารภาพก่อนว่าผมค่อนข้างชอบนาฬิกาที่มีสีสัน และยิ่งชอบมากขึ้นถ้าเป็นการจับคู่สีที่ตัดกันอย่างลงตัว ซึ่งหลายต่อหลายครั้งทีมออกแบบของ Casio ทำได้เป็นอย่างดีผ่านนาฬิกาหลายต่อหลายรุ่นของพวกเขา ซึ่ง Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 ถือเป็นการจับคู่ที่ลงตัวมากของ 3 สี นั่นคือ เหลือง เทา และแดง โดยมีการเขย่าทั้ง 3 สีนี้ได้อย่างมีสัดส่วนที่ดูสวยงามอย่างมาก ทั้ง 3 สีนี้คือ คอลเล็กชั่น Yellow x Gray ซึ่งเป็นสีสำหรับนาฬิกาสปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1990 และมีจุดเริ่มต้นกับรุ่น DW-001 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Jason ซึ่งเปิดตัวในปี 1994

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

ในคอลเล็กชั่นนี้มีทั้งหมด 5 รุ่นคือ DW-5610Y-9 (ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขอบตัวเรือนแยกจากชุดกรอบตัวเรือนหลัก) GA-110Y-9 ตามด้วย GMA-S110Y-9A ซึ่งเป็นรุ่นเล็กของ GA-110 ส่วนรุ่น 3 ตาหรือ DW-6900 มี 2 รุ่นคือ DW-6900Y-9 และ GMD-S6900Y-9 ที่เป็นรุ่นเล็ก ซึ่งทั้งหมดถูกย้อมด้วย 3 สีตามที่บอกข้างต้น

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

การเลือกรุ่นนาฬิกาเข้ามาอยู่ในคอลเล็กนั้นไม่ได้มีการบอกเอาไว้ แต่ผมเชื่อว่าเป็นการเลือกจากตัวแทนของนาฬิกายอดนิยมที่ถูกมองว่าเป็น Iconic ของทศวรรษนั้นๆ อย่าง DW-5610 คือ ทายาทสายตรงของรุ่นดั้งเดิมของนาฬิกา G-SHOCK ที่เปิดตัวในปี 1983 นั่นคือ DW-5000C ส่วน DW-6900 คือ นาฬิการุ่นดังที่ก่อกำเนิดในยุคทศวรรษที่ 1990 โดยเปิดตัวในปี 1995 และขาดไม่ได้คือ GA-110 นาฬิกาที่ทำให้ชื่อ G-SHOCK กลับมาผงาดอีกครั้งเมื่อเปิดตัวในปี 2010 ซึ่งถือเป็นตัวแทนของทศวรรษ 2000

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

ผมเลือก Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 ด้วยเหตุผลเดียวคือ ชอบ DW-6900 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

นาฬิการุ่นนี้ถือว่าเป็นความคลาสสิคในด้านการออกแบบของ Casio เลยก็ว่าได้ โดยเป็นการผสมผสานงานออกแบบด้วยการดึงจุดเด่นของนาฬิกา 2 รุ่นมารวมกัน นั่นคือ หน้าจอ 3 วงที่ถูกเรียกว่า Three-Eye หรือ Triple Grpah พร้อมกับการแสดงหน้าจอดิจิตอลที่ด้านล่าง ที่มีอยู่ในรุ่น DW-5900C-1 ซึ่งเปิดตัวในปี 1992 ให้เข้ากับกรอบตัวเรือนทรงกลมพร้อมหน้าจอแบบครึ่งวงกลม และปุ่มกดไฟทรงเหลี่ยมในตำแหน่ง 6 นาฬิกาของรุ่น DW-6600-1V ที่เปิดตัวในปี 1994 ผลที่ได้คือ ความเจ๋งในแง่การออกแบบที่เป็นรุ่น DW-6900

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

นอกจากดีไซน์แล้ว อีกสิ่งที่ผมค่อนข้างชอบใน DW-6900 คือ ความสบายในการสวมใส่ นี่คือ G-SHOCK ที่ผมมีความรู้สึกว่าไม่เทอะทะจนเกินไปเหมือนกับพวกนาฬิกา Master of G ทำให้สวมใส่ได้หลากหลายโอกาส ตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 53.2 มิลลิเมตร Lug to Lug 50 มิลลิเมตร และหนา 18.7 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่ออยู่บนข้อมือแล้วถือว่าลงตัวมาก

กลับมาที่รุ่น Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 การผสมผสานและการเลือกใช้รูปแบบของสีเป็นเสน่ห์หลักที่ทำให้ผมชอบคอลเล็กชั่นนี้ สีเหลืองไม่สดเกินไป ออกโทนอ่อน เช่นเดียวกับสีเทา และทั้งหมดมากับสีด้าน ทำให้มีความคลาสสิคและดูไม่วิ๊งๆ เหมือนกับบางคอลเล็กชั่น

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

นอกจากนั้น สำหรับสีแดง แม้ว่าจะทำหน้าที่ของมันเพียงน้อยนิด แต่กลับมีพลังอย่างมากในการยกระดับความโดดเด่น เพราะไม่ว่าจะเป็นขอบของวงย่อย ตัวอักษร G บนปุ่มกดไฟ ข้อความ Shock Resist บนหน้าปัด หรือตัวรัดสาย ทั้งหมดถือว่า โดดเด่นและลงตัว

DW-6900 เป็นนาฬิกาที่คุณสามารถเข้าถึงได้ เพราะเป็น G-SHOCK รุ่นมาตรฐานสำหรับฝั่งหน้าจอดิจิตอลที่มีราคาไม่สูงมาก ส่วนใหญ่จะเริ่มสตาร์ทที่ 3,000 บาทปลายๆ ไล่ไปจนถึงรุ่นสูงๆ ที่เป็นรุ่นพิเศษ ซึ่งบางรุ่นก็มีราคาเฉียดหมื่น หรือเฉียดสองหมื่นเมื่อถูกนำไปรีเซล

ดังนั้น ความคาดหวังในเรื่องของฟังก์ชั่นจึงไม่ต้องพูดถึงมากนัก เพราะ DW-6900 ใช้โมดุลแบบแสดงผลดิจิตอลในรหัส 3230 ซึ่งเข้ามาแทนที่โมดุลเดิมในรหัส 1289 ด้วยการขยายเรื่องปฏิทินที่สิ้นสุดในการแสดงผลวันที่ 31 ธันวาคม 2039 เพราะโมดุลนี้อยู่คู่กับ DW-6900 มาตั้งแต่ปี 1995 โน่นเลย สำหรับโมดุล 3230 มีการขยายวันที่ไปสิ้นสุดที่ 31 ธันวาคม 2099 โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2000

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

นอกเหนือจากนั้น ฟังก์ชั่นก็แทบไม่แตกต่างกันเท่าไร โดยจะมีอยู่ 3 Mode หลักคือ ตั้งปลุกได้วันละ 1 ครั้งต่างจากโมดุลรุ่นใหม่ๆ ที่ทำได้ถึง 5 ครั้งต่อวัน แต่ในรุ่นนี้จะสามารถเซ็ตการตั้งปลุกล่วงหน้าได้ทั้งแบบระบุวันและเดือน รวมถึงการตั้งปลุกเป็นประจำในวันนั้นๆ ของเดือน และเมื่อตั้งปลุกแล้วจะมีสัญลักษณ์รูปกระดิ่งปรากฏขึ้นตรงมุมขวาบนของหน้าจอดิจิตอลด้านล่าง และในการปลุกแต่ละครั้งจะมีเสียงดังประมาณ 20 วินาที Mode ต่อมาคือ การจับเวลาเดินหน้า ที่สามารถจับแยกเวลาได้ หรือ Split Time และการจับเวลาแบบแยก 2 การแข่งขัน ส่วนอีกฟังก์ชั่นคือ จับเวลาถอยหลัง ซึ่งทำได้สูงสุด 24 ชั่วโมง

ทั้งหมดคือฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในโมดุล 3230 ของ DW-6900 รุ่นใหม่ๆ ซึ่งอาจจะดูน้อยนิดเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิการุ่นใหม่ๆ แต่ถ้ามองถึงเรื่องของราคาค่าตัว ฟังก์ชั่นเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานที่เพียงพอต่อการใช้งานตามปกติแล้ว ขณะที่อายุแบตเตอรี่ของนาฬิกาจะอยู่ที่ 2 ปีโดยประมาณ ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยเฉพาะในส่วนของการเปิดไฟ

Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

ราคาป้ายของ Casio G-SHOCK DW-6900Y-9 อยู่ที่ 4,500 บาท ถือว่าไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปสำหรับนาฬิการุ่นมาตรฐาน และถ้าถามผมว่า นาฬิการุ่นนี้น่าซื้อไหม ? คำตอบ คือ น่าซื้ออย่างมาก และหลังจากที่ได้มาแล้ว นาฬิกาเรือนนี้เริ่มปลุกไฟในการตามหา DW-6900 รุ่นอื่นๆ ของผมให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK DW-6900Y-9

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 50 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 18.7 มิลลิเมตร
  • กระจก : Mineral
  • กลไก : Module 3230
  • การกันน้ำ : 200 เมตร
  • ประทับใจ : สีสัน ความสบายในการสวมใส่ ราคาที่จับต้องได้
  • ไม่ประทับใจ : ไม่มี