Casio G-Shock DW-5900 การกลับมาของความคลาสสิค

0

Casio เอาใจบรรดาคนรักนาฬิกา Vintage อีกครั้ง เมื่อปัดฝุ่นนำนาฬิกาคลาสสิคอย่าง DW-5900 กลับมาทำตลาดอีกครั้ง โดยจะขาย 2 รุ่นคือ DW-5900 และ DW-5900BB

Casio G-Shock DW-5900
Casio G-Shock DW-5900 การกลับมาของความคลาสสิค ( DW-5900 , DW-5900BB , 3-Eye , 5900 Series )

Casio G-Shock DW-5900 การกลับมาของความคลาสสิค

  • การกลับมาของนาฬิกาแบบ 3-Eye แบบดั้งเดิม

  • รุ่นเดิมเปิดตัวในปี 1990

  • รุ่นใหม่จะมีขาย 2 แบบคือ DW-5900 และ DW-5900BB

- Advertisement -

เมื่อพูดถึงนาฬิกาที่เป็น Milestone ของ G-Shock จากค่าย Casio คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงนาฬิกาตระกูล 5600 6900 หรือไม่ก็ Frogman ทั้งที่ความจริงแล้ว ยังมีนาฬิกาที่สร้างชื่อให้กับ Casio หลายรุ่น ซึ่งทางแบรนด์ดังของญี่ปุ่นเองจัดการนำกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง นั่นคือ 5700 Series ส่วนล่าสุดคือ 5900 Series ซึ่งเป็นนาฬิกาแบบ 3 ตา หรือ 3-Eye ที่โด่งดังจากการเปิดตัวเมื่อปี 1990

แน่นอนว่า Casio จัดการนำกลับมาด้วยรูปแบบที่เชื่อว่าแฟนๆ บางท่านน่าจะคุ้นแล้ว คือ  เปิดตัวโดยซ่อนเป็น 1 ในคอลเล็กชั่นบางอย่างก่อน ซึ่งการคัมแบ็คของ 5900 Series คือ การอยู่ในเซ็ตของ Black Series ที่มีรหัส BB จากนั้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ก็จะเปิดตัวรุ่นปกติของมันออกมา

รุ่นแรกของ 5900 Series จะทำตลาดด้วยชื่อ DW-5900BB-1JF โดยเป็น 1 ใน 4 ของนาฬิกาของคอลเล็กชั่น Black Series ซึ่งอีก 3 เรือนที่อยู่ในเซ็ตนี้คือ DW-D5500BB-1JF DW-D5500BB-1JF และ G-001BB-1JF ส่วนในคอลเล็กชั่นของ DW5900 เองที่จะเปิดตัวออกมานั้น จะเป็นตัวคลาสสสิคที่มีหน้าตาเหมือนรุ่นดั้งเดิม โดยจะใช้ชื่อ DW-5900-1

นาฬิการุ่นนี้นอกจากจะถูกรียกด้วยชื่อ 3-Eye แล้ว หลายคนยังเรียกมันว่า Walter เพราะว่าเป็นนาฬิกาที่ John Goodman สวมใส่ตอนรับบทเป็น Walter Lebowski1 ในภาพยนตร์เรื่องดังของพี่น้อง Cohen อย่าง The Big LeBowski นอกจากนั้นสิ่งที่น่าสนใจคือ มันคือร่างต้นแบบของการเป็นนาฬิกาแบบ 3-Eye พร้อมจอ LCD ก่อนที่จะมาโด่งดังและนิยมแบบสุดๆ กับรหัส DW-6900 โดยรุ่นแรกของเจ้า DW-5900 นั้นเลิกผลิตเมื่อเดือนตุลาคม1992

ตัวนาฬิกาจะมากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 46.8 มิลลิเมตร Lug to Lug 51.4 มิลลิเมตร และหนา 15.5 มิลลิเมตร ตัวนาฬิกาใช้โมดุล 3465 ในเรื่องของฟังก์ชั่นคงไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมมากมาย มีที่หลักๆ นอกจากการบอกเวลาแล้ว คือ การจับเวลาในระดับความละเอียด 1/100 วินาที การนับถอยหลังที่เซ็ตได้สูงสุด 24 ชั่วโมง ตั้งปลุกได้ 5 ครั้งต่อวันและปลุกซ้ำหรือ Snooze ได้อีก 1 ครั้ง รวมถึง World Time ที่มีเวลาของเมืองต่างๆ ทั่วโลกจำนวน 48 เมือง พร้อมแบตเตอรี่ที่มีอายุ 5 ปี

การทำตลาดจะเริ่มที่ญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก จากนั้นก็ทยอยเปิดตัวในตลาดแห่งอื่นๆ ซึ่งราคาตั้งของนาฬิการุ่นนี้ทั้ง DW-5900 และ DW-5900BB จะอยู่ที่ 11,000 เยนเท่ากับตัว DW-5750 ถ้าให้คาดเดาจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ราคาป้ายก็น่าจะอยู่ที่ 4,000 บาทเหมือนกัน