40 ปีที่แล้ว G-SHOCK ได้ถือกำเนิดขึ้นโดยมีนาฬิการุ่นแรกคือ DW-5000C เปิดตัวออกมา และได้วางรากฐานทั้งแนวคิดของความแข็งแกร่ง และรูปแบบของดีไซน์ที่แตกยอดไปยังรุ่นต่างๆ และในตอนนี้ทาง Casio G-SHOCK ได้นำรุ่นดั้งเดิมกลับมาผลิตใหม่ โดยเพิ่มขนาดตัวเรือนจากรุ่นดั้งเดิมพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น และจำหน่ายในชื่อ Casio G-SHOCK DW-5000R-1A ด้วยค่าตัวที่แพงกว่า DW-5600 ประมาณ 2 เท่า แต่มีความพิเศษกว่า
Casio G-SHOCK DW-5000R-1A โปรเจ็กต์คืนชีพต้นกำเนิดที่ไม่ควรพลาด
-
การนำนาฬิกาที่เป็นจุดกำเนิดของ G-SHOCK อย่าง DW-5000C มาผลิตใหม่
-
เพิ่มขนาดตัวเรือนจากรุ่นดั้งเดิมพร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น
-
ราคา 8,500 บาท และเป็นผลผลิตแบบ Made in Japan
ตอนที่ได้เห็นจากหน้าเว็บไซต์ของ Casio G-SHOCK ที่ญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่แล้ว สิ่งแรกที่ผมนึกเลยก็คือ เราไม่ควรพลาดนาฬิการุ่นนี้ และแน่นอนว่าเจ้า Casio G-SHOCK DW-5000R-1A ได้กลายมาเป้าหมายแรกในปี 2025 ของผมเลยก็ว่าได้ โดยทิ้งระยะจากการเปิดตัวที่ญี่ปุ่นได้ไม่ถึงเดือน ในที่สุดนาฬิกาเรือนนี้ก็เปิดตัวในเมืองไทยแล้ว และกับราคาที่อยู่ในระดับ 8,500 บาท หรือแพงกว่า DW-5600 รุ่นทั่วไปราวๆ 2 เท่า แม้ว่าจะดูแล้วไม่ต่างในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอก แต่บอกเลยว่า คอนเซ็ปต์และเรื่องเล่าของนาฬิกาที่เป็นจุดเริ่มต้นของ G-SHOCK คือ สิ่งที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า G-SHOCK ถือกำเนิดในปี 1983 และนาฬิการุ่นแรกของพวกเขาคือ DW-5000C ได้วางรากฐานไม่เฉพาะในเรื่องแนวคิดของความทนทานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ชนิดที่เป็นระดับ Iconic ของแบรนด์เลยก็ว่าได้ และได้ต่อยอดไปสู่รุ่นต่างๆ โดยที่รุ่นที่คงคอนเซ็ปต์ของตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมเอาไว้คือ DW-5600
ดังนั้น ในแง่ความสำคัญแล้ว DW-5000C ถือว่ามีมากต่อประวัติศาสตร์ที่นานถึง 40 ปีของ G-SHOCK ผมจึงค่อนข้างตื่นเต้นเมื่อรู้ว่า Casio G-SHOCK จะปัดฝุ่นนำ DW-5000C มาสร้างสรรค์ใหม่ภายใต้ชื่อ Casio G-SHOCK DW-5000R-1A
สิ่งแรกที่ชอบนาฬิการุ่นนี้ก็คือ คอนเซ็ปต์และแนวคิด เพราะ DW-5000R-1A คือ การนำของดั้งเดิมกลับมาทำใหม่ภายใต้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ดังนั้น หน้าตาของตัวนาฬิกาคือ การถอดแบบมาจาก G-SHOCK รุ่นแรก นั่นคือ DW-5000C ที่เปิดตัวในปี 1983
ผมคิดว่าตัวอักษร R ต่อท้ายรุ่นก็มาจากคำว่า Re-Issue หรือการนำกลับมาทำใหม่ ดังนั้น ทุกรายละเอียดถอดแบบมาจาก DW-5000C แต่เป็นของใหม่ ซึ่งก็รวมถึงโครงสร้างภายในตัวเรือนที่เป็นสเตนเลสสตีลเหมือนกับรุ่นดั้งเดิม และฝาหลังขัดเงาแบบขันเกลียว ที่เป็นเอกลักษณ์ของ DW-5000C
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอ้างอิงรุ่นดั้งเดิม แต่ก็จะมีจุดต่างกันออกไปเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตัวเลขการกันน้ำบนหน้าปัดซึ่งของเดิมใช้คำว่า 200 เมตร แต่รุ่นนี้เป็นเป็น 20 BAR ขนาดที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 41.6 มิลลิเมตรในรุ่นดั้งเดิมมาเป็น 42.3 มิลลิเมตร แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ DW-5600 ที่มีขายอยู่ในตลาดแล้ว จะเล็ดกว่าเพียงเล็กน้อย ราวๆ 0.5 มิลลิเมตร
เปรียบเทียบขนาดของนาฬิการุ่นต่างๆ ในซีรีส์ 5000 และ 5600
นอกจากนั้น การเปลี่ยนวัสดุในการผลิตกรอบจากเรซินปกติมาเป็นวัสดุชีวภาพ หรือ BioMass Plastic ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการเลือกใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืน และเพิ่มความเป็นกลางคาร์บอน โดยตัววัสดุสามารถย่อยสลายได้เมื่อถูกทิ้งอยู่ในธรรมชาติ
รุ่นใหม่นี้ยังใช้ Module ใหม่ที่ใช้ไฟส่องสว่างแบบ LED ไม่ใช่ Backlight เป็นรหัส 3576 พร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถอยู่ได้นานถึง 5 ปี ส่วนฟังก์ชั่นที่มีอยู่ข้างในไม่ต้องคาดหวังมาก เพราะเหมือนกับ DW-5600 รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้โมดุลนี้ สิ่งที่มีอยู่ก็แค่การจับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง การตั้งปลุก ไฟกระพริบเตือนเมื่อฟังก์ชั่นที่เลือกเสร็จสิ้นการทำงาน
แม้ว่า DW-5000R-1A จะมีรุ่นงบฯ น้อยอย่างรหัส RL วางขายคู่กัน (ซึ่งซีรีส์นี้จะมีการผลิตออกมาทั้งหมด 4 รุ่นย่อยจากนาฬิกาในกลุ่ม Iconic ของพวกเขาอย่าง DW-5600, DW-6900, GA-110 และ GA-210) แต่บอกเลยว่า คนละเรื่องกันเลย ทั้งในแง่ความประณีต น้ำหนัก และความเนียนในการผลิต
การจ่ายแพงกว่าประมาณ 2 เท่ากว่าๆ ย่อมได้สิ่งที่ดีกว่า (ราคา 8,500 บาทสำหรับรุ่น DW-5000R-1A เปรียบเทียบกับ 3,900 บาทของรุ่น DW-5600RL-1) ทั้งสตอรี่ รายละเอียดที่อ้างจากรุ่นดั้งเดิม รวมถึงน้ำหนักที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน (76 กรัม) จากการใช้โครงสร้างภายในเป็นสเตนเลสสตีล รวมถึงฐานการผลิตที่มาจากโรงงาน Yamagata ซึ่งแฟนๆ G-SHOCK ทราบดีว่า เป็นฐานการผลิตสำหรับนาฬิการะดับสูงของแบรนด์ และคำว่า Made in Japan ยังมีมนต์ขลังเสมอ
OK ในแง่ของความรู้สึกสำหรับคนที่ชอบนาฬิกาวินเทจอาจจะไม่ใช่ แต่สำหรับคนที่อยากได้นาฬิกาที่มีความเหมือนกับต้นฉบับ แต่ใหม่ ใส่ได้นาน และทันสมัยด้วยวัสดุและเทคโนโลยีการผลิต ผมว่านี่คือ ทางเลือกที่ดีที่สุด และเป็นนาฬิกาที่ไม่ควรพลาด
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK DW5000R-1A
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42.3 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 48.9 มิลลิเมตร
- ความหนา: 13.1 มิลลิเมตร
- กระจก: Mineral
- ฝาหลัง: ขันเกลียว
- โมดุล :รหัส 3576
- ฟังก์ชั่น: จับเวลาเดินหน้า 1/100 วินาที จับเวลาถอยกลัง ตั้งปลุก การแสดงเวลา 12/24H
- ไฟส่องสว่าง: LED
- การกันน้ำ: 200 เมตร
- ประทับใจ : คอนเซ็ปต์ตัวนาฬิกา แนวทางคงเอกลักษณ์จากรุ่นดั้งเดิมเอาไว้ แต่เพิ่มด้วยความทันสมัยของการผลิตยุคใหม่
- ไม่ประทับใจ : แพ็คเกจขจองกล่องน่าจะทำได้สะดุดตากว่านี้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline