ในงาน Watch Expo ที่สยามพารากอน ทาง Casio G-Shock นำนาฬิการุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์เด่นคือ STEEL x CORDURA, MTG-B1000 และ RANGEMAN GPR-B1000
Casio G-Shock เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ใน Watch Expo
-
บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG)
-
ผู้นำเข้านาฬิกา CASIO G-SHOCK อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
เผยโฉมนาฬิกาไฮไลท์ 3 รุ่นสุดเอ็กซ์คูซีฟ G-STEEL x CORDURA, MTG-B1000 และ RANGEMAN GPR-B1000 พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ณ งาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2018 (Siam Paragon Watch Expo 2018) ที่สุดของงานแสดงนาฬิการะดับโลกครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีภายใต้คอนเซ็ปต์ “เดอะ ยูนีค ไทม์พีซเซส” (The Unique Timepieces) ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2561 เท่านั้น
ในงานนี้ CASIO G-SHOCK นำทัพนาฬิกาด้วย G-STEEL x CORDURA นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดในตระกูล G-STEEL อันแข็งแกร่งที่ผสมผสานความสตรีทและความเรียบหรูอย่างลงตัว ภายใต้นิยาม G-STEEL : From Suit To Street, When Style Meets Function ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในทุกโอกาสชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันสบายๆ วันที่ต้องลุยงานหนัก หรือวันที่ต้องสวมใส่สูทไปงานเลี้ยงสุดหรู
G-STEEL x CORDURA โดดเด่นด้วยดีไซน์อันทรงเอกลักษณ์ พร้อมโครงสร้างสายนาฬิกาที่ผสมผสานวัสดุ 3 ชนิดเข้าด้วยกัน โดยประกอบด้วยชั้นใน ทัฟ เลเธอร์ (Tough Leather) ชั้นกลาง เรซิ่น (Resin) และชั้นนอกสุดยอดนวัตกรรมผ้าคอร์ดูรา (Cordura®) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ G-SHOCK ได้นำเทคโนโลยีผ้าพิเศษนี้มาใช้กับ G-STEEL เพื่อเพิ่มความสวยงามและเสริมในเรื่องของความแข็งแรงทนทานที่เหนือกว่า โดยผ้าคอร์ดูรามีความแข็งแรงทนทานกว่าผ้าปกติถึง 3 เท่า และได้ถูกนำไปใช้ในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องแต่งกายทหาร และกระเป๋าใส่กระสุน ที่สำคัญ ผ้าคอร์ดูรามีความทนทานต่อการถลอก รอยขูดขีด การฉีกขาด และยังสามารถป้องกันการดูดซึมของน้ำและเหงื่อเพื่อปกป้องความอับชื้นที่เป็นปัญหาหลักของนาฬิกาสายผ้าอีกด้วย
นอกจากสายนาฬิกาคอร์ดูราที่แข็งแรงและทนทานแล้ว G-STEEL x CORDURA ยังมาพร้อมกับ วงขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีล ระบบพลังงาน ทัฟ โซลาร์ (Tough Solar) ซึ่งชาร์จไฟด้วยแสงอาทิตย์ ไฟฟลูออเรสเซนต์และแหล่งพลังงานแสงอื่นๆ รวมถึงความสามารถในการกันน้ำได้ถึง 200 เมตร และ ระบบ Mobile Link เพื่อการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth® ซึ่งตอบสนองทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้ในการลุยน้ำ เล่นกีฬา ไปเที่ยวหรือทำงาน ครบทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ไม่หยุดนิ่งได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ G-STEEL x CORDURA มีให้เลือกถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ GST-S130BC-1A สายสีดำกรอบสีดำเคลือบแบ็ค ไอพี, GST-S130BC-1A3 สายสีเขียว Military กรอบสีดำเคลือบแบ็ค ไอพี และ GST-S130C-1A สายสีดำกรอบสีเงิน ในไซส์ปกติ (Standard Fit) และ GST-S330C-1A สายสีดำกรอบสีเงินในขนาดกลาง (Asian Fit)
อีกหนึ่งรุ่นในกลุ่มพรีเมี่ยมที่น่าจับตามองคือ รุ่น MTG-B1000 จากซีรี่ส์ MTG (Metal Twisted G-Shock)ด้วยวัสดุผสมผสานระหว่างโลหะและเรซิน ที่มีขนาดตัวเรือนกระชับข้อมือ เสริมด้วยโครงสร้าง TRIPLE G RESIST ซึ่งทนทานต่อแรงกระแทก แรงเหวี่ยง และแรงสั่นสะเทือน พร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน ระบบไฟ LED ความสว่างสูง แสดงเวลาโลก นาฬิกาจับเวลา และมีระบบการชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทัฟ โซลาร์ แบบทนทานดั้งเดิมของ CASIO
นอกจากนี้ MTG-B1000 ยังมาพร้อมกับ Connected Engine ใหม่ เพื่อความแม่นยำของเวลาที่มากยิ่งขึ้น พร้อมฟังก์ชันการสื่อสารด้วย Bluetooth® ทำให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ใช้แอป G-SHOCK Connected ได้อย่างง่ายดาย เสริมด้วยฟังก์ชั่น Multiband 6 ซึ่งควบคุมด้วยคลื่นวิทยุ เพื่อปรับเทียบมาตรฐานเวลา เพื่อความแม่นยำในทุกสถานการณ์
นาฬิกาไฮไลท์รุ่นสุดท้าย ที่นำมาเปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่แรกที่เดียว ณ งาน สยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2018 ได้แก่ G-SHOCK RANGEMAN GPR-B1000 รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยวัฒนาการความแข็งแกร่งทนทานขั้นล่าสุดของ G-SHOCK และอีกหนึ่งความภาคถูมิใจของนาฬิกาซีรี่ส์ “Master of G” (มาสเตอร์ ออฟ จี) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในทุกสภาวการณ์อันแสนเลวร้าย โดยสามารถป้องกันฝุ่นผง สิ่งสกปรก โคลน และต้านทานอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง -20 องศาเซลเซียส ด้วยสายนาฬิกาชนิดเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ และใช้กระจก แซฟไฟร์ คริสตัล
นาฬิกา RANGEMAN มาพร้อมกับ ทริปเปิ้ล เซ็นเซอร์ ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับ 3 แบบ ซึ่งทำให้สามารถตรวจวัดทิศ ความกดอากาศ/ระดับความสูง และอุณหภูมิได้ โดยสร้างขึ้นบนพื้นฐานแนวคิด “ความทนทานเพื่อความอยู่รอด” นอกจากนี้ นาฬิการุ่นใหม่ GPR-B1000 ยังมาพร้อมกับสัญญาณบลูทูธเพื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และระบบการนำทางด้วย จีพีเอส (GPS) ที่นำแสงอาทิตย์มาใช้เป็นพลังงานเสริมเป็นครั้งแรกของโลก พร้อมการบันทึกข้อมูล “แทร็ก” แนวเส้นทางที่เดินทางจริงและ “พ้อยต์” เพื่อระบุตำแหน่งภูมิประเทศ ณ จุดที่เราอยู่ [รวมไปถึง ลองจิจูด (ตำแหน่งเส้นแวง) / ละติจูด (ตำแหน่งเส้นรุ้ง), อัลติจูด (ระดับความสูง) และอุณหภูมิ] ไว้ในหน่วยความจำได้ด้วย
พิเศษสุด สำหรับงาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2018 ลูกค้าที่ซื้อนาฬิกา G-STEEL x CORDURA รุ่นใดก็ได้ จะได้รับเซ็ทเครื่องมือเดินป่าอเนกประสงค์ G-STEEL (G-STEEL MILITARY KIT) โดยมีจำนวนจำกัด นอกจากนี้ G-SHOCK ยังมีกิจกรรมมากมายให้ผู้ร่วมงานทุกท่านได้ร่วมสนุก โดยทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์จะมีการแข่งขัน G-SHOCK MINI G-SQUAD CHALLENGE ณ บูธ CASIO G-SHOCK ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันสควอท 3 ท่านต่อวันจะได้รับนาฬิกา G-SQUAD Activity Tracker ซีรี่ส์ รุ่น GBA-800 มูลค่า 5,500 บาทเป็นรางวัลอีกด้วย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ G-SHOCK รุ่น G-STEEL x CORDURA, MTG-B1000 และนาฬิกา G-SHOCK รุ่นอื่นๆ สามารถเข้าชมได้ที่งาน สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2018 ณ บูธ CASIO G-SHOCK ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2561 หรือผ่านทางเว็บไต์ www.casio-cmg.com และ Facebook/Casio Watches Thailand
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/