Breguet Marine Hora Mundi 5557 การตีความใหม่ที่ยังคงความคลาสสิค

โดย

26/03/2022

- Advertisement -

Manufacture Breguet เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่เกิดจากการตีความใหม่ของเรือนเวลา Hora Mundi ในคอลเลคชั่น Marine ซึ่งเป็นเครื่องบอกเวลาที่ผสานไว้ซึ่งคุณสมบัติทางเทคนิคและสุนทรียศาสตร์ใหม่ของกาลเวลา

Breguet Marine Hora Mundi 5557

Breguet Marine Hora Mundi 5557 การตีความใหม่ที่ยังคงความคลาสสิค

นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์บนการตีความใหม่พร้อมความสามารถในการบอกเวลาที่ 2
บนตัวเรือนมีขนาด 9 มิลลิเมตร ผลิตจากวัสดุจากทองคำขาว หรือทองคำ Rose Gold
ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 77F1 ที่มีกำลังสำรอง 55 ชั่วโมง

Manufacture Breguet นำเสนอความน่าหลงใหลแห่งเรือนเวลาชั้นเยี่ยมในคอลเล็กชั่น Marine ซึ่งนำมาตีความใหม่เพื่อสะท้อนถึงความโดดเด่นในด้านการออกแบบและนวัตกรรมของโลกแห่งเรือนเวลาผ่านทางนาฬิการุ่นพิเศษที่ชื่อว่า Breguet Marine Hora Mundi 5557

แม้ว่านาฬิการุ่นนี้เคยมีการนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่เพื่อความสวยและโดดเด่นหลายครั้งแล้ว เช่น ในปี 2011 กับรุ่น Ref.5717 ตามด้วยอีกครั้งในปี 2016 กับรุ่น Ref.5712 แต่สิ่งที่แตกต่างคือ 2 รุ่นนี้อยู่ในคอลเล็กชั่น Classique ซึ่งจะต่างจากรุ่น Ref.5557 เพราะ Breguet Marine Hora Mundi 5557 จะอยู่ในกลุ่มคอลเล็กชั่น Marine

ตัวนาฬิกามาพร้อมกับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43.9 มิลลิเมตรโดยมีวัสดุให้เลือกทั้งแบบทองคำขาวในรหัส Ref. 5557 BB/YS/5WV หรือ Rose Gold ในรหัส Ref. 5557 BR/YS/5WV พร้อมกับสายยาง สายโลหะแบบเดียวกับตัวเรือน และสายหนัง รายละเอียดบนหน้าปัดถูกตีความด้วยการหยิบนำรูปโลกมาไว้บนข้อมือผ่านวัสดุและแผ่นหน้าปัดลวดลายที่วางซ้อนทับกัน

ชั้นแรกทำจากทองที่ตกแต่งด้วยการสลักลายกิโยเชต์ด้วยมือเป็นรูปคลื่นที่เคลื่อนกระทบผืนทวีปอย่างนุ่มนวล ฐานของหน้าปัด Sunburst ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินก้นสมุทรที่ช่วยสร้างสัมผัสให้ลายคลื่นเปรียบเสมือนมีการเลื่อนขยับอยู่ตลอด เสริมด้วยกรรมวิธีที่ใช้ในการจำลองภาพทวีป: แผ่นแซฟไฟร์ที่ประดับด้วยเส้นเมอริเดียนจากโลหะ ผืนทวีปตกแต่งด้วยการขัดด้านแบบซาตินในแนวดิ่ง ในขณะที่ตามขอบตัดด้วยสีเมทัลลิคเทอร์ควอยซ์ และที่ขาดไม่ได้คือวงขอบที่คอยทำหน้าที่ยึดโยงรายละเอียดต่างๆบนหน้าปัดเรือนเวลา เผยให้เห็นถึงความประณีตในการผลิตทั้งด้านมิติและพื้นผิวนี้ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการผลิตหลากหลายขั้นตอนเป็นเวลานานหลายสัปดาห์

นอกจากนั้น หน้าปัดยังคงอ่านค่าได้ง่ายพร้อมทั้งตกแต่งความงดงามเป็นพิเศษ โดยสำหรับ Breguet รายละเอียดต่างๆ จะแฝงไว้ซึ่งความหรูหรา จึงเป็นเหตุผลที่เข็มชั่วโมง เข็มนาที เช่นเดียวกับหลักชั่วโมงจะได้รับการบรรจุด้วยสารที่มีคุณสมบัติเรืองแสง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะสามารถอ่านเวลาได้แม้ในเวลากลางคืน ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกาถูกตอกขึ้นด้วยมือเพื่อมอบรายละเอียดที่สมจริง ในขณะที่ดวงอาทิตย์เฉิดฉายด้วยโรสโกลด์ ดวงจันทร์ชุบโรเดียมก็ส่องประกายสีเทาลุ่มลึก หน้าต่างที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาบอกวันที่ผ่านเข็มแบบเรโทเกรดปลายเข็มโค้งมนทรง “ตัวยู” คอยทำหน้าที่ระบุวันที่อยู่ข้างใต้อย่างชาญฉลาด

เทคนิคการขัดแต่งอย่างวิจิตรที่มีชื่อว่า brouillage กรรมวิธีการตกแต่งแบบโบราณถูกนำมาปรับปรุงและได้ช่วยมอบพื้นผิวที่มีความด้านแต่ก็ยังสามารถสะท้อนแสง ช่วยเสริมการอ่านเวลาอย่างมีชั้นเชิง และเมืองต่างๆ ที่อยู่ในแต่ละเขตเวลาเผยอยู่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และสมอโลหะที่ปรากฏด้านบนหน้าต่างนี้จะช่วยระบุสถานที่

ตัวนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 77F1 ที่เดินด้วยความถี่ 4 เฮิร์ต กลไกอัตโนมัติติดตั้งด้วยระบบปล่อยจักรจากวัสดุซิลิคอน – วัสดุมากด้วยคุณสมบัติที่ทั้งต้านทานต่อการกัดกร่อนและการสึกหรอ อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก Calibre 77F1 มีความพิเศษด้วยโมดูลกลไกเสริมที่ได้รับการจดสิทธิบัตรสำหรับระบบการบอกสองเขตเวลา, การแสดงเขตเวลาที่สอง, กลไกของจักรบันทึกที่สามารถบันทึกและปรับการตั้งค่า รวมถึงลูกศรระบุกลางวัน/กลางคืน

ส่วนหนึ่งของกลไกระดับสูงนี้คือสามารถสำรองพลังงานที่ยาวนานกว่า 55 ชั่วโมงที่สามารถรับชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังซึ่งตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยการขัดแต่งด้วยลาย Côtes de Genève, กิโยเชต์และลายก้นหอย

ด้วยการตั้งค่าต่างๆ ของตัวนาฬิกาที่ง่ายดายจึงทำให้ Hora Mundi ได้รับความนิยมทันทีตั้งแต่การเปิดตัว นาฬิกาจักรกลที่มาพร้อมกับกลไกการแสดงสองเขตเวลาที่สามารถเปลี่ยนในทันทีและสิทธิบัตรสำคัญถึงสี่ชิ้นซึ่งต้องใช้เวลาถึงสามปีในการพัฒนา

ความสำเร็จทางด้านเทคนิคนี้สามารถใช้งานได้โดยใช้เพียงการกดปุ่มกับเม็ดมะยม เริ่มด้วยการเลือกเวลากับวันที่ของเมืองต้นทาง จากนั้นเพียงแค่เลือกเพิ่มชื่อเมืองอีกแห่ง กลไกของนาฬิกาก็จะสามารถคำนวณเวลากับวันที่ผ่านชิ้นส่วนที่ผ่านการออกแบบอย่างชาญฉลาดอย่างลูกเบี้ยว (Cam), แฮมเมอร์ และเฟืองท้ายที่ติดตั้งอยู่ภายในเรือนเวลานี้ซึ่งมาพร้อมการกดเพียงปุ่มเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการดูเวลาข้ามซีกโลกและยังไม่รบกวนการทำงานอันเที่ยงตรงของนาฬิกา

สำหรับราคาของ Breguet Marine Hora Mundi 5557 เริ่มต้นที่ 72,700 เหรียญสหรัฐฯ