การทำงานร่วมกันของแบรนด์นาฬิกาอย่าง Bell & Ross กับทีมแข่ง F1 ที่พวกเขาเป็นพันธมิตรมาตั้งแต่ปี 2016 เพียงแต่คราวนี้ทีมนั้นถูกเปลี่ยนชื่อจาก Renault มาเป็น Alpine F1 Team
Bell & Ross x Alpine การจับมือครั้งใหม่กับทีมแข่ง F1
-
นาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่จากความร่วมมือกับทีมแข่ง F1
-
ในคอลเล็กชั่นนี้จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อยและเป็น Limited Edition ทั้งหมด
-
เริ่มจำหน่ายแล้วจตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา
Bell & Ross ถือเป็นอีกแบรนด์นาฬิกาที่เป็นผู้สนับสนุนทีมแข่ง F1 และสำหรับคอลเล็กชั่นในปี 2021 แม้ว่าชื่อทีมจะเปลี่ยนเป็น Alpine F1 Team แต่จริงๆ แล้วพวกเขาก็คือ ทีม Renault F1 ซึ่งทาง Bell & Ross สนับสนุนมานานอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2016 นั่นเอง โดยในปีนี้มีการเปิดตัวนาฬิกาใหม่ออกมา 3 รุ่นคือ BR V3-94 A521, BR 03-94 A521 และ BR-X1 A521
สำหรับ A521 ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนคือ รหัสตัวถึงของรถแข่งรุ่นใหม่และถือเป็นรุ่นแรกของทีมแข่ง Alpine F1 Team ที่ถูกเปลี่ยนชื่อจาก Renault F1 Team โดย Renault ถือเป็นบริษัทแม่ที่ครองสิทธิ์ในการจำหน่ายแบรนด์ Alpine ซึ่งในอดีตคือ แบรนด์รถยนต์อิสระที่ผลิตรถรถสปอร์ตโดยอ้างอิงจากรถแข่งที่พวกเขาใช้แข่งในรายการแรลลี่ระดับนานาชาติ
ทุกเรือนจะมีการเปลี่ยนโทนสีสำหรับใช้ในการตกแต่งตามสีประจำทีมด้วย จากเดิมที่ใช้โทนเหลือง-ดำของ Renault ก็เปลี่ยนมาเป็นฟ้า-ขาวของทีม Alpine แทน
Bell & Ross BR V3-94 A521 :
ใช้พื้นฐานของรุ่น BR V3-94 ที่อยู่ในกลุ่ม Vintage Collection โดยจะมีจำหน่ายทั้งสายโลหะและสายคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมหนัง บนตัวเรือนที่ผลิตจากสตีลและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร มาพร้อมฟังก์ชันจับเวลาแบบ 2 วงที่มาจากกลไกรุ่น BR-Cal.301 และมีการผลิตออกมารุ่นละ 500 เรือน บนหน้าปัดจะมีการประดับธงชาติฝรั่งเศสขนาดเล็กๆ เอาไว้ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยปลายเข็มวินาทีของระบบจับเวลาจะมีตัว A ที่เป็นสัญลักษณ์ของทีม Alpine F1 Team และบนหน้าปัดย่อยของวงจับเวลา 30 นาทีในตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะเป็นสีฟ้า และวง Small Second ของระบบแสดงเวลาหลักจะเป็นสีขาว พร้อมกับขอบตัวเรือนแบบหมุน 2 ทางที่มีการใช้สเกลแบบจับเวลาถอยหลัง มีราคา 4,400 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับสายคาร์บอนไฟเบอร์ และ 4,700 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับรุ่นสายสตีล
 |
 |
 |
Bell & Ross BR 03-94 A521 :
ใช้พื้นฐานของรุ่น BR 03-94 ในคอลเล็กชั่น Instrument บนตัวเรือนทรงเหลี่ยมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร ซึ่งผลิตจากสตีลมาพร้อมกับฟังก์ชั่นจับเวลาที่อยู่บนพื้นฐานของกลไก BR-Cal.301 และมีการผลิตออกมารุ่นละ 500 เรือนเหมือนกัน โดยจะมีเฉพาะรุ่นสายยางที่มีลวดลายที่ถูกเซาะร่องเป็นแนวยาว 5 เส้น ขอบตัวเรือนเป็นแบบหมุน 2 ทางและมีสเกลแบบจับเวลาถอยหลังซ่าง Insert ที่ใช้อยู่บนขอบตัวเรือนนั้นจะผลิตจากอะลูมิเนียมสีดำ มีความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร มีราคาอยู่ที่ 6,400 เหรียญสหรัฐฯ
 |
 |
Bell & Ross BR-X1 A521 :
ใช้พื้นฐานของรุ่น BR-X1 Chronographe ที่มีจุดเด่นตรงหน้าปัดแบบเปลือยทำให้มองเห็นแท่นเครื่องของกลไกที่มีฉลุลายและออกแบบให้เป็นตัว X ตัวเรือนทรงเหลี่ยมผลิตจากไทเทเนียมและมีการเคลือบ PVD สีดำมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร พร้ออมกับหุ้มตัวเรือนโดยรอบด้วยขอบยาง ขอบตัวเรือนผลิตจากสตีลสามารถหมุนได้ 2 ทางพร้อมสเกลจับเวลา ที่มีตำแหน่ง Time Marker และเมื่อพลิกที่ด้านหลังของตัวนาฬิกาจะพบกับฝาหลังแบบใสที่มีกระจก Sapphire ติดตั้งเอาไว้เพื่อให้สามารถชื่นชมความสวยของกลไก BR-Cal.302 ที่มีการฉลุลายอย่างสวยงาม และเดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง นาฬิการุ่นนี้มีการผลิตออกมาเพียงแค่ 50 เรือนเท่านั้น และมีราคาอยู่ที่ 21,500 เหรียญสหรัฐฯ
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
