Bell & Ross BR 05 Skeleton Golden หน้าปัดเปลือยสีทองอร่ามตา

โดย

MP4/4

16/02/2023

ถือเป็นขาประจำของทุกปีสำหรับนาฬิกาแบบหน้าปัดเปลือยหรือ Skeleton ของ BR 05 จาก Bell & Ross ซึ่งในตอนนี้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในชื่อ BR 05 Skeleton Golden กับหน้าปัดสีทองบนตัวเรือนสตีล และมีจำหน่ายทั้งสายยางและสายสตีลรุ่นละ 500 เรือน

Bell & Ross BR 05 Skeleton Golden หน้าปัดเปลือยสีทองอร่ามตา

รุ่นใหม่ของคอลเล็กชั่น Skeleton จากนาฬิกาตระกูล BR 05 ที่มีตัวเรือน 40 มิลลิเมตร
มากับหน้าปัด Skeleton สีทองพร้อมกลไก BR-Cal.322 ที่ผ่านการขัดแต่งอย่างสวยงาม
มีผลิตด้วยกัน 2 รุ่นคือ สายสตีล และสายยางซึ่งมีขายรุ่นละ 500 เรือน

- Advertisement -

Bell & Ross ขยับตลาดให้กับคอลเล็กชั่น BR 05 อีกครั้ง กับนาฬิการุ่น BR 05 Skeleton Golden ที่มาพร้อมกับความหรูซึ่งผสมผสานกับรูปลักษณ์ทรงเหลี่ยมที่ผ่านการขัดแต่งขอบตัวเรือนให้โค้งมนของนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้ได้อย่างลงตัวและจะมาพร้อมกัน 2 ทางเลือกคือ รุ่นสายยาง และรุ่นสายสตีล

ในปี 2019 Bell & Ross ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น BR 05 ออกมาพร้อมกับได้รับความนิยมอย่างมากกับรูปทรงเหลี่ยมตามแบบฉบับของแบรนด์ ที่ถูกขัดแต่งให้มีความเป็นนาฬิกาสำหรับใส่ในชีวิตประจำวันได้ ขณะที่มีดีไซน์ที่สอดรับกับการใช้ชีวีตของคนเมืองด้วยแนวคิดนาฬิกาสำหรับ Urban Adventurer

Bell & Ross BR 05 Skeleton Golden

นับจากนั้นเป็นต้นมา BR 05 ได้ถูกเปิดตัวออกสู่ตลาดหลากหลายทางเลือกทั้งรุ่น 3 เข็ม รุ่นจับเวลา Chronograph รุ่น GMT และรุ่นหน้าปัดเปลือยหรือที่เรียกว่า Skeleton ซึ่งแต่ละปีจะมีการเปิดตัวสีใหม่ๆ ออกมา โดยเริ่มจากการเปิดตัวรุ่น Skeleton Blue เป็นรุ่นแรกในปี 2019 ตามด้วยรุ่น NightLum ที่มีการผลิต 500 เรือน ในปี 2021 Skeleton Green ในปี 2022 และ Skeleton Golden ในปี 2023

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทาง Bell & Ross มีการผลิตเวอร์ชันทองที่เรียกว่า BR 05 Skeleton Gold ออกมาในปี 2021 ซึ่งเป็นตัวเรือนและสายที่ผลิตจากทองคำ 18K โดยมีจำนวนการผลิต 99 เรือน และมีราคา 36,200 เหรียญสหรัฐฯ

เช่นเดียวกับเวอร์ชันอื่นๆ ของ BR 05 Skeleton ตัวนาฬิกาใช้พื้นฐานของรุ่น 3 เข็มกับตัวเรือนรงเหลี่ยม หรือ Round within the square ที่มีขนาด 40 มิลลิเมตร และมาพร้อมความโดดเด่นในการเสริมความแปลกตาจากที่ผ่านมาด้วยหน้าปัดใสที่สามารถมองเห็นรายละเอียดของกลไกที่อยู่ด้านใน

ขอบตัวเรือนยกสูงขึ้นและพื้นผิวด้านบนเป็นแบบขัดลายซาตินโดยแต่ละมุมของตัวเรือนจะมีน็อตฝังลงไป ซึ่งถือเป็นอีกเอกลักษณ์ของนาฬิกาจากค่ายนี้ ขณะที่กระจก Sapphire ได้รับการเคลือบสารป้องกันการสะท้อนแสงและเป็นแบบเรียบ

ความงามของนาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับความหรูในการเลือกใช้สีสันที่ลงตัว ด้านในที่เป็นพื้นผิวใสของหน้าปัดจะเคลือบด้วยสีน้ำตาลอ่อนที่ดูคล้ายกับสีทอง สามารถมองทะลุไปผ่านตัวนาฬิกาซึ่งเป็นแบบฝาหลังใส และเลือกปรับแต่งกลไกอัตโนมัติให้เป็นแบบ Skeleton ลดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ส่วนอินเนอร์ริงที่อยู่ด้านในของหน้าปัดมากับสีทองพร้อมกับหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยมเป็นแท่งสูงที่มีสีทองด้วยเช่นกันและเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova Grade X1 White สอดรับกับชุดเข็มทรง Baton ที่เป็นแท่งยาวและมีพื้นผิวเป็นสีทอง

กลไกอัตโนมัติของนาฬิการุ่นนี้ถูกปรับแต่งจากพื้นฐานของรหัส BR-Cal.322 พร้อมกับมีการขัดแต่งอย่างสวยงาม เพื่อให้สอดรับกับตัวนาฬิกาที่สามารถมองเห็นจากด้านบนลงมา ขณะที่กำลังสำรองอยู่ที่ 38 ชั่วโมง และมีความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร

สำหรับราคาอยู่ที่ 6,600 ฟรังก์สวิสส์ สำหรับรุ่นสายยาง และ 7,100 ฟรังก์สวิสส์ สำหรับรุ่นสายสตีล มีจำนวนการผลิตรุ่นละ 500 เรือน และจะเริ่มส่งมอบในเดือนมีนาคมนี้