การคัมแบ็คของนาฬิกาดำน้ำรุ่นดังในยุคทศวรรษที่ 1980 โดย Seiko ปัดฝุ่นนำชื่อ Seiko Arnie หรือ H588-5009 กลับมาทำตลาดอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเปิดตัวขายในเดือนกันยายน 2019 นี้

Seiko Prospex SNJ025P1 และ SNJ027P1 เมื่อ Seiko Arnie คืนชีพ
-
การคัมแบ็คของนาฬิกาชื่อดังในยุคทศวรรษที่ 1980
-
คงรูปแบบและหน้าตาของ Seiko H558-5009
-
ราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 799 เหรียญออสเตรเลีย และเริ่มขายกันยายนนี้
นาฬิการุ่นหนึ่งของ Seiko ที่ถูกนำ Re-Issue และเปิดตัวในงาน Basel World 2019 แม้ว่าจะไม่ได้ถูกพูดถึงในวงกว้างมากนัก แต่หลายคนก็เฝ้ารอการเปิดตัวซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงกลางปีนี้ นั่นคือ SNJ025P1 สำหรับตัวสีดำ และ SNJ027P1 สำหรับเวอร์ชั่น PADI ซึ่งเมื่อดูหน้าตาแล้ว ใครที่เป็นแฟน Seiko มานานต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือ การคัมแบ็คของ Seiko Arnie
แน่นอนว่าคำถามนี้เกิดขึ้นทันทีว่า อะไรคือ Seiko Arnie ?
คุณคลุกคลีอยู่กับแวดวงนี้มานาน เชื่อว่าน่าจะคุ้นกับชื่อเล่น หรือ Nickname ที่บรรดานักเล่นนาฬิกา Seiko ทั่วโลกต่างยกให้กันมาบ้าง เช่น Seiko Ripley ซึ่งก็คือเวอร์ชัน Chronograph ที่ออกแบบโดย Giugiaro และทาง Sigouney Weaver สวมใส่เข้าฉากในภาพยนตร์เรื่อง Aliens เมื่อปี 1986 และ Seiko Arnie ก็มีที่มาแบบนี้เหมือนกัน ซึ่กฌพอจะเดาได้ว่ามาจากไหน
Seiko Arnie เป็นนาฬิกาดำน้ำของ Seiko แสดงผลในแบบดิจิตอล อนาล็อก หรือ And-Digi ในรหัส H558-5009 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1982 และทำตลาดยาวนานเหมือนกันจนถึงปี 1990 โดยในตอนนั้นมีราคาขายอยู่ราวๆ 45,000 เยน สิ่งที่น่าสนใจคือ Seiko Arnie หรือ H558-5009 เป็นนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกที่มีความสามารถในการดำระดับ 150 เมตรแถมยังใช้กลไกแบบ Hybrid ซึ่งก็อย่างที่บอกคือ การผสมกันระหว่างเข็มกับดิจิตอล นั่นจึงทำให้มีความสามารถในการทำงานเพิ่มขึ้นทั้งในเรื่องของการตั้งปลุก และการจับเวลา
เอาละคราวนี้ทำไมนาฬิกาเรือนนี้ถึงได้ชื่อว่า Arnie นั่นเป็นเพราะพระเอกหนังบู๊ร่างบึ๊กอย่าง Arnold Schwarzenegger นิยมสวมนาฬิกาเรือนนี้ก่อนที่จะไปหลงใหล AP หรือ Panerai โดยเขามักจะใส่เข้าฉากภาพยนตร์ที่ตัวเองรับบทเป็นทหารอย่าง Predator Commando หรือ Raw Deal อยู่เสมอ นาฬิกาเรือนนี้ก็เลยได้รับฉายาว่า Seiko Arnie
การที่ Seiko นำ SNJ025P1 และ SNJ027P1 มาเปิดตัวใน Basel World 2019 ถือเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะเมื่อดีดลูกคิดดูแล้ว ในปีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ H558-5009 ในแง่ของวาระพิเศษแต่อย่างใด แต่บอกเลยว่าเป็น Wish List ของผมทันทีที่ได้เห็นหน้าตาของตัว Re-Issue
ตรงนี้เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวล้วนๆ อย่างแรกผมชอบนาฬิกาแบบ 2 ระบบอย่าง Ana-Digi อยู่แล้ว (ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเว็บนี้ถึงใช้ชื่อนี้) ประการต่อมา ผมค่อนข้างชอบเลย์เอาท์ในการจัดวางบนหน้าปัดของ H558-5009 ที่นำหน้าจอดิจิตอลไปวางอยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งต่างจากนาฬิกาทั่วไปที่มักจะวางหน้าจอเอาไว้ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และประการสุดท้าย คือ ขนาดของนาฬิกาที่ขยายเพิ่มขึ้นจากเดิมมาเป็น 47 มิลลิเมตร เชื่อว่าน่าจะพอเหมาะกับข้อมือของผม
SNJ025P1 และ SNJ027P1 ได้รับการถ่ายทอดงานออกแบบบนตัวเรือนและหน้าปัดมาจาก H558 ในเกือบทุกจุด โดยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวเรือนอยู่ที่ 47.8 มิลลิเมตร ใช้ตัวเรือนแบบสแตนเลส สตีล และมีเกราะที่ดูคล้ายๆ Shroud ของพวก Tuna Can ห่อหุ้มเอาไว้ โดยตัวเกราะผลิตจากพลาสติก โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นดั้งเดิม เห็นจะเป็นปุ่มกดควบคุมระบบในตำแหน่ง 8 และ 10 นาฬิกาที่มีขนาดใหญ่และยาวขึ้นในระดับเดียวกับเม็ดมะยมในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งต่างจากรุ่นดั้งเดิมที่จะเป็นปุ่มเล็กๆ ไม่ยาวออกมา
อีกสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาและผมค่อนข้างชอบคือ การใช้กลไกแบบ Solar ที่สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ ซึ่งกลไกที่ใช้เป็นรหัส H851 แบบ Solar Dual-Display ซึ่งเท่าที่มีการเปิดเผยออกมาในแง่ของการทำงานนั้น จะมีทั้งการจับเวลาในระดับ 1/100 วินาที การตั้งปลุก การแสดงเวลาที่ 2 และระบบปฏิทินอัตโนมัติ ส่วนกระจกเป็นแบบ Hardlex และมีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตรตามแบบฉบับนาฬิกาในกลุ่ม Prospex
ในตอนนี้ Seiko เผยภาพออกมาเพียง 2 รุ่นเท่านั้นคือ SNJ025P1 สำหรับตัวสีดำแบบมาตรฐาน และ SNJ027P1 สำหรับเวอร์ชั่น PADI ที่ใช้ขอบสเกล Pepsi โดยที่ยังไม่ได้บอกว่าจะมีรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวออกมาสมทบไหมเมื่อถึงเวลาทำตลาดในเดือนกันยายน 2019 ส่วนราคาคาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 799 เหรียญออสเตรเลีย หรือ 20,000 นิดๆ ซึ่งบ้านเราถ้าหักลบส่วนลดแล้ว ราคาขายก็น่าจะอยู่ที่ หมื่นกลางๆ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ชอบนาฬิกาครบเครื่องแบบนี้
การคัมแบ็คของนาฬิกาดำน้ำรุ่นดังในยุคทศวรรษที่ 1980 โดย Seiko
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/