เมื่อ Hamilton อยู่ในโลกของภาพยนตร์

0

ภาพยนตร์ คือ อีกพื้นหนึ่งที่มักจะถูกใช้ในการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยการ Placement สินค้าเข้าไปในฉากเพื่อให้เกิดความจดจำและผ่านตาผู้ชม แน่นอนว่า Hamilton  คือ นาฬิกาแบรนด์หนึ่งที่มักจะถูกเลือก หรือเข้าไปมีส่วนในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ รวมๆ แล้วมากกว่า 450 เรื่องเลยทีเดียวนับจากปี 1951

เมื่อ Hamilton อยู่ในโลกของภาพยนตร์
1.Elvis Presley กลายเป็นขาประจำของ Hamilton Ventura หลังจากที่สวมเข้าฉากในภาพยนตร์เรื่อง Blue Hawaii

เมื่อ Hamilton อยู่ในโลกของภาพยนตร์

ลองคิดดูว่าจะมีนาฬิกาแบรนด์ไหนที่มีส่วนร่วมในภาพยนตร์ Hollywood มากกว่านี้อีกไหม มากกว่า 450 เรื่องคือตัวเลขที่นาฬิกาของ Hamilton เข้าไปปรากฏกายบนข้อมือของเหล่าตัวละครในภาพยนตร์ นับจากเขาเริ่มให้การสนับสนุนนาฬิกากับบรรดาสตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 1951

- Advertisement -

อย่างที่เราทราบกันดีว่าภาพยนตร์คือ อีกพื้นที่หนึ่งที่บรรดาผู้ผลิตนาฬิกาหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ มักจะใช้เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาในลักษณะที่ Placement สินค้าเข้าไป เพื่อให้ผ่านตานับล้านๆ คู่ของคนทั่วโลกที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ซึ่งหลายแบรนด์เลือกที่จะจ่ายเพื่อใช้ตรงนี้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่สำหรับ Hamilton พวกเขาเลือกที่จะใช้ความร่วมมือระหว่างกันในการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ซึ่งกันและกัน ดังนั้น ในช่วงของการปรากฎกายของนาฬิกาพวกเขาจึงให้ความรู้สึกที่เนียนและไหลรื่นแบบไม่รู้สึกว่า ‘จงใจ’ ที่จะทำให้นาฬิกาเรือนนั้นๆ โดดเด่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุมีผล

และกับตัวเลขระดับนี้น่าจะเป็นการบ่งบอกให้เห็นว่ากลยุทธ์ในการใช้ความร่วมมือระหว่างกันของ Hamilton นั้นได้ผลขนาดนี้ และในทางกลับกันเป็นการแสดงให้เห็นว่านาฬิกาของพวกเขานั้นมีความโดดเด่นและคลาสสิคจนกระทั่งสะดุดตา จนได้รับการติดต่อเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบของภาพยนตร์กันเลยทีเดียว อีกทั้งนาฬิกาของ Hamilton ทั้ง 7 คอลเล็กชั่นก็สามารถครอบคลุมรองรับกับประเภทของภาพยนตร์ได้อย่างหลากหลายมาก ไม่เชื่อก็ลองดูจากตัวอย่างข้างล่าง

เมื่อต้องอยู่บนข้อมือทหาร

ให้ทายว่านาฬิการุ่นใดของ Hamilton เป็นเรือนแรกที่มีส่วนเกี่ยวกับกับการเข้าฉากในภาพยนตร์ เชื่อเลยว่าบางคนอาจจะบอกว่า Khaki Field ที่เป็นนาฬิกาเด่นอีกรุ่น หรือไม่ก็ Ventura แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วนั่นคือ Frogman ซึ่งถูกส่งเข้าฉากเป็นครั้งแรกในปี 1951 ในภาพยนตร์เรื่อง The Frogmen และถือเป็นการเปิดศักราชในยุคแรกของ Hamilton กับภาพยนตร์

การถูกเลือกในครั้งนี้มีเหตุและผลสอดรับกัน คือ ภาพยนตร์เล่าถึงเรื่องของหน่วยทำลายใต้น้ำของกองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และ Hamilton เองก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการผลิตนาฬิกาให้กับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาในช่วงนั้น ทุกอย่างก็เลยมาประจวบเหมาะกัน และทำให้ทีมงานเลือกเอา Frogman มาเป็นนาฬิกาคู่ใจของบรรดาตัวละครในเรื่อง และเป็นการสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของ Hamilton ในยุคนั้นได้เป็นอย่างดีว่า เป็นนาฬิกาที่มีความแข็งแกร่งและผูกพันกับการใช้งานของบรรดาเหล่าทหารในกองทัพสหรัฐอเมริกา

โด่งดังสุดๆ กับ The King

ถัดมาอีก 10 ปีชื่อของ Hamilton เป็นที่กล่าวขานและเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างอีกครั้ง เมื่อ Ventura ซึ่งเป็นนาฬิกาที่นอกจากจะมีดีไซน์ที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้นแล้วยังเป็นนาฬิกาไฟฟ้าเรือนแรกของแบรนด์ ได้รับเลือกให้อยู่บนข้อมือของ ‘The King’ Elvis Presley ยอดนักร้องเพลงร็อคผู้ล่วงลับ ซึ่งนำแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Blue Hawaii ในปี 1961

เอาเข้าจริงๆ แล้ว Elvis กับ Hamilton Ventura ไม่ได้เพิ่งมีสัมพันธ์กันเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ตามที่หลายคนเข้าใจ แต่ Elvis ถูกใจในดีไซน์ของ Ventura มาตั้งแต่เปิดตัวใหม่ๆ และสวมใส่ตั้งแต่สมัยเป็นทหารประจำการอยู่ในฐานทัพที่เยอรมนี แต่คนส่วนใหญ่จะรับทราบเรื่องนี้ก็ตอนที่เห็น Ventura อยู่บนข้อมือของเขา

นอกจากนั้น ตลอดอายุขัยของ Elvis เขาชื่นชอบนาฬิการุ่นนี้มาก และเมื่อปี 1999 ก็มีการประมูลนาฬิกา Hamilton Ventura เรือนสุดท้ายที่ครอบครองโดย Elvis ซึ่งเป็นตัวเรือน White Gold หน้าปัดสีดำที่เขาเลือกซื้อในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเมื่อปี 1965

ล้ำสมัยทะลุโลก

Hamilton เป็นแบรนด์ที่ไม่ยึดติดกับความซ้ำซากและอะไรแบบเดิมๆ พวกเขามักจะมีไอเดียใหม่ๆ และหลายต่อหลายครั้งเป็นไอเดียแบบทะลุโลกข้ามยุคสมัย แต่เป็นที่ถูกใจของใครก็ตามที่มีมุมมองที่ก้าวหน้า ซึ่งตรงนี้ถูกสะท้อนออกมาผ่านทางนาฬิกาที่พวกเขาเคยสนับสนุนให้กับภาพยนตร์ Sci-Fi เรื่องดังๆ

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ การที่ Hamilton เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบนาฬิกาสำหรับเข้าฉากภาพยนตร์อวกาศที่ในเวลาต่อมาได้รับการยอมรับว่าเป็นมหากาพย์แห่งมนุษยชาติ นั่นคือ 2001 : A Space Odyssey ที่เปิดฉายในปี 1968 ซึ่งในตอนนั้น Hamilton ออกแบบนาฬิกาสำหรับเข้าฉากให้กับตัวละครหลัก และทีมนักบินอวกาศที่จะต้องเดินทางไปดาวพฤหัสบดี

Stanley Kubrick ซึ่งเป็นผู้กำกับได้ขอให้ Hamilton สร้างนาฬิกาข้อมือและนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ดูล้ำสมัยหลายเรือนเพื่อเข้าฉาก ผลงานที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นดูดีเสียจนนิตยสาร Vogue และ Esquire หยิบยกไปทำเป็นบทความ บรรดาลูกค้าก็เรียกร้องให้ Hamilton ผลิตจริง แต่ในขณะนั้นทางบริษัทมองว่านาฬิกาดังกล่าวผลิตยากเกินไป แม้แต่เรือนประกอบฉากในภาพยนตร์ก็เป็นเพียงเรือนต้นแบบเท่านั้นโดยได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการของ  Stanley Kubrick โดย Deutsches Filmmuseum  ซึ่งเดินทางไปจัดแสดงทั่วโลก

จนกระทั่งคอลเล็กชั่นนี้ได้มีการผลิตออกมาใหม่ในช่วงของการฉลองครบรอบเกือบๆ 40 ปีของการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้กับรุ่น ODC X-01 ในปี 2006  และ X-02 ในปี 2009 ซึ่งมีการผลิตออกมาในจำนวนจำกัด ก่อนที่จะเปิดตัวคอลเล็กชั่นที่ 3 คือ X-03 เมื่อปลายปี 2016

อีกรุ่นที่ถูกโยงเข้าถึงความล้ำสมัย คือ Ventura ซึ่งคุณลองคิดดูสิ นี่คือนาฬิกาที่ออกแบบในปี 1957 แต่ทว่ามันยังถูกปรับดีไซน์เพื่อแสดงให้เห็นถึงโลกที่อยู่ห่างไกลไปอีกเกือบ 40 ปีได้อย่างไม่ตกยุคสมัย และทางทีมงานของ M.I.B. หรือ Men In Black ทั้ง 3 ภาค ได้เลือกเอา Ventura มาใช้เป็นนาฬิกาในเรื่องนี้ และถือเป็นการพลิกกลับมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอีกครั้งสำหรับ Ventura หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่งบนข้อมือของ Elvis ใน Blue Hawaii

เรื่องบู๊เราก็ถนัด

อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะมองว่า Hamilton เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ล้ำสมัย และดูแหวกแนวด้วยดีไซน์ แต่ทว่าในเรื่องออกลุยๆ หรือเน้นความสมบุกสมบันพวกเขาก็ไม่ยั่นเหมือนกัน และใครจะไปเชื่อว่าคู่หูพ่อลูกในภาคที่ 5 ของ Die Hard อย่าง A Good Day to Die พี่ Bruce Willis จะสวมนาฬิกาแนวเดรสอย่าง Jazzmaster Viewmatic ออกไปไล่ยิงพวกเหล่าร้าย

ขณะที่อีกเรื่องซึ่งถูกพูดถึงบ่อยคือ Jack Ryan ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เล่าชีวิตวัยหนุ่มของตัวละครสำคัญของ Tom Clancey ที่รับบทโดย Chris Pine ซึ่งในเรื่องนี้ทาง Hamilton ใช้รุ่น Khaki Field Titanium ตัวเรือน PVD เป็นรุ่นโปรโมท และเชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยและผ่านตากันมาบ้าง

เอาเข้าจริงๆ Hamilton กับภาพยนตร์ Action ไม่ใช่ของใหม่ พวกเขาเข้าฉากมาตลอดตั้งแต่การกลับมาร่วมมือกับผู้ผลิตภาพยนตร์ในยุคที่ 2 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี 1993 กับภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Cliffhanger ที่ Sylvester Stallone ไม่สวม PAM แต่ใส่ Khaki Field แทน ตามด้วย U.S. Marshall กับรุ่น Khaki King, Lethal Weapon 4 กับรุ่นLinwood Viewmatic, I am Legend กับรุ่น Khaki Aviation Twiglight และ Die Hard 4.0 กับรุ่น Khaki ETO

เครื่องบอกเวลาแห่งความสำเร็จ

ในภาพยนตร์บางเรื่อง เราจะพบกับตัวเอกที่ทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยกอบกู้โลก หรือ ช่วยใครสักคน (ซึ่งอาจจะรวมถึงตัวเอง) พ้นจากเหตุอันตราย และนั่นทำให้บางครั้งนาฬิกาของ Hamilton มักจะมีความหมายเดียวกับกับการบุกบั่นและไม่ย่อท้อนจนกว่าจะประสบความสำเร็จอย่างที่วางเอาไว้

ถ้ายังจำกันได้ในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องในแนว Sci-Fi ตามพล็อตเรื่องลักษณะนี้ นาฬิกาของ Hamilton เข้าไปเกี่ยวข้องหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีล่าสุด เช่น Interstellar ที่ต้องบอกว่าเป็นอีกเรื่องที่สร้างการจดจำในแบรนด์ของ Hamilton ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนาฬิกาที่เรียกว่า Murp’s Watch ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ Custom ขึ้นมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก่อนที่จะผลิตออกขายในคอลเล็กชั่น Khaki Field ด้วยชื่อ Pioneer Auto และอีกเรือนคือ Khaki Pilot Day Date ที่สวมโดย Mathew McConaughey ก็ถูกเรียกว่าเป็น Interstellar Watch

ขณะที่เรื่อง Martian หลายคนเอาใจช่วย Matt Damon ที่สวมนาฬิกาสุดโหด Khaki BelowZero ซึ่งออกแบบมาเพื่อการดำน้ำในระดับ 1,000 เมตร แต่สามารถขึ้นไปลุยบนดาวอังคารได้ ให้เขาสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับการลุ้นให้นักบินชาวโลกเอาชนะการรุกรานรอบใหม่ของมนุษย์ต่างดาวในเรื่อง ID-4 : Reurgence ซึ่งงานนี้คอลเล็กชั่นนักบินอย่าง Khaki Aviation X-Wind ได้ออกโรงทำหน้าที่จนกระทั่งประสบความสำเร็จในภารกิจป้องกันโลก

รางวัลสำหรับผู้อยู่เบื้องหลังการทำงาน

ด้วยความที่ Hamilton มีความเกี่ยวกันในการทำงานในโลกภาพยนตร์มานานและหลายต่อหลายเรื่อง ดังนั้น พวกเขาจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับคนที่นั่งอยู่เบื้องหลังในการทำงานค่อนข้างมาก และได้จัดการแจกรางวัลที่เรียกว่า Hamilton Behind The Camera Awards (BTCA) ขึ้นเป็นประจำเพื่อสนับสนุนและเป็นแรงผลักดันในการทำงานเพื่อให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ทำงานกันอย่างเต็มที่

รางวัลนี้มีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 และเป็นการสนับสนุนผู้ที่ทำงานภาพยนตร์ในส่วนอื่นๆ เช่น พร็อพมาสเตอร์ คอสตูมดีไซเนอร์ ผู้ตัดต่อ ผู้ผลิตภาพยนตร์ โดยพิธีจัดให้มีขึ้นที่ฮอลลีวู๊ด คาลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 และย้ายมาจัดที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนตั้งแต่ปี 2011

ตรงนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า Hamilton ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะคนที่อยู่เบื้องหน้าเท่านั้น แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็มีความสำคัญ และควรจะได้รับการยกย่องไม่แพ้กัน

บรรยายภาพ